ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียประกาศข้อตกลงด้านกลาโหมและการค้าหลายชุด ซึ่งมุ่งยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและอินเดียในระหว่างการเดินทางเยือนทำเนียบขาวของปธน.โมดีเมื่อวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ของสหรัฐ วางแผนที่จะร่วมผลิตเครื่องยนต์ F414 กับบริษัทฮินดูสถาน แอโรนอติกส์ (Hindustan Aeronautics) ของอินเดียสำหรับเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาทีจัส (Tejas) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงการป้องกันและการแบ่งปันเทคโนโลยี ท่ามกลางท่าทีของจีนที่แข็งกร้าวมากขึ้นในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
ผู้นำทั้งสองประเทศยังประกาศความร่วมมือด้านกลาโหมครั้งใหม่ รวมถึงความคืบหน้าในการสั่งซื้อโดรนรุ่น MQ-9B SeaGuardian ที่ผลิตโดยบริษัทเจเนอรัล อะตอมมิกส์ (General Atomics) และข้อตกลงที่จะอนุญาตให้เรือของกองทัพเรือสหรัฐสามารถดำเนินการซ่อมแซมครั้งใหญ่ได้ที่อู่ต่อเรือของอินเดีย
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองชาติยังเปิดตัวข้อตกลงเซมิคอนดักเตอร์หลายชุดที่มุ่งใช้เงินอุดหนุนของอินเดียเพื่อส่งเสริมการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศ
ปธน.ไบเดนแถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังจากการพูดคุยกับนายโมดีว่า "เรากำลังเพิ่มความร่วมมือเป็นสองเท่าเพื่อรับประกันด้านความมั่นคงของเซมิคอนดักเตอร์ ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของเรา รวมถึงพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคม RAN แบบเปิด และขยายความร่วมมือด้านกลาโหมที่สำคัญของเราผ่านการซ้อมรบร่วมมากขึ้น ความร่วมมือที่มากขึ้นระหว่างอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของเรา และการให้คำปรึกษาและการประสานงานที่มากขึ้นในทุกฝ่าย"
ทั้งนี้ บริษัทไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ลงทุนมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์มูลค่า 2.75 พันล้านดอลลาร์ในอินเดีย ขณะที่แอพพลายด์ แมททีเรียลส์ (Applied Materials) ประกาศสร้างศูนย์เซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่สำหรับการค้าและนวัตกรรม ส่วนแลม รีเสิร์ช (Lam Research) ผู้ผลิตชิปของสหรัฐ ประกาศโครงการฝึกอบรมในอินเดียสำหรับวิศวกรจำนวน 60,000 คน