นายปริโกซิน อดีตพันธมิตรของปธน.ปูติน กล่าวเมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ว่า กองกำลังของเขาเดินทางถึงระยะ 125 ไมล์ (200 กม.) ก่อนถึงกรุงมอสโก โดยก่อนหน้านี้ มอสโกส่งกำลังทหารเข้าประจำตำแหน่งและแนะนำให้ประชาชนอยู่ภายในบ้าน
ก่อนหน้านี้ กลุ่มวากเนอร์เข้ายึดเมืองรอสตอฟซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้หลายร้อยไมล์ โดยคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพขบวนรถถังและรถบรรทุกหุ้มเกราะบุกทะลวงผ่านเครื่องกีดขวางขณะที่เดินทางขึ้นเหนือบุกกรุงมอสโก อย่างไรก็ดี กลุ่มวากเนอร์เริ่มถอนกำลังออกจากกองบัญชาการกองทัพรอสตอฟแล้วเมื่อคืนวานนี้
"ภายใน 24 ชั่วโมง เราไปถึงภายในระยะ 200 กม. ของมอสโก ครั้งนี้กลุ่มนักสู้ของเรามิได้หลั่งเลือดแม้แต่หยดเดียว" นายปริโกซินซึ่งสวมเครื่องแบบทหารเต็มยศ กล่าวผ่านวิดีโอในสถานที่ที่ไม่เปิดเผย
"เมื่อตระหนักว่า คนรัสเซียฝั่งหนึ่งจะต้องนองเลือด เราจึงถอยทัพกลับเข้าค่ายภาคสนามตามแผน"
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงที่จัดทำโดยนายอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส จะส่งผลให้คดีอาญาต่อนายปริโกซินในข้อหาก่อกบฏนั้นถูกยกเลิก และนายปริโกซินจะย้ายไปเบลารุส ขณะที่กลุ่มนักสู้วากเนอร์ที่เข้าร่วมใน "การเดินขบวนเพื่อความยุติธรรม" ตามคำกล่าวของนายปริโกซิน จะไม่ถูกลงโทษใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเคยมีคุณงามความดีจากการรับใช้ชาติก่อนหน้านี้
นายเพสคอฟกล่าวว่า ปธน.ลูกาเชนโก ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากปธน.ปูติน เสนอตัวที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ย เนื่องจากปธน.ลูกาเชนโกรู้จักนายปริโกซินเป็นการส่วนตัวมาประมาณ 20 ปี
นายเพสคอฟปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่ามีข้อตกลงใด ๆ กับนายปริโกซินหรือไม่ นอกเหนือจากคำสัญญาเป็นการส่วนตัวจากปธน.ปูตินว่าจะรับประกันความปลอดภัยให้นายปริโกซินและคนของเขา เพื่อโน้มน้าวให้เขาถอนทหารวากเนอร์ทั้งหมดออก
อนึ่ง นายปริโกซินระบุว่าการเดินทัพไปยังกรุงมอสโกครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อไล่เหล่าผู้บัญชาการรัสเซียที่ทุจริตและไร้ความสามารถซึ่งทำสงครามในยูเครนแบบผิดพลาด นายปริโกซินวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอย่างรุนแรง โดยเฉพาะนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย และนายวาเลรี เกราซิมอฟ หัวหน้าคณะเสนาธิการทหาร โดยกล่าวหามาเป็นเวลาหลายเดือนว่าพวกเขาไร้ความสามารถและไม่ยอมส่งกระสุนปืนให้กลุ่มวากเนอร์
ก่อนหน้านี้ ปธน.ปูตินแถลงทางโทรทัศน์ในเช้าวานนี้ว่า การก่อกบฏถือเป็นการคุกคามการดำรงอยู่ของรัสเซีย
"เรากำลังต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน เพื่ออำนาจอธิปไตยและเอกราชของเรา เพื่อสิทธิในการดำรงอยู่ของรัสเซียที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี" ปธน.ปูตินกล่าว