สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า เขาได้หารือผ่านทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐและแคนาดา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) เกี่ยวกับความวุ่นวายในรัสเซีย พร้อมระบุว่า โลกได้เห็นความอ่อนแอของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแล้ว
รายงานระบุว่า การหารือทางโทรศัพท์มีขึ้นหลังจากการก่อกบฏที่ล้มเหลวของนายเยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) ซึ่งก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการกุมอำนาจของปธน.ปูติน ขณะที่ยูเครนกำลังปฏิบัติการโจมตีโต้กลับเพื่อขับไล่กองกำลังทหารรัสเซียออกจากพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของประเทศ
"เราได้หารือเกี่ยวกับเส้นทางความเป็นปรปักษ์และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซีย และทั่วโลกต้องกดดันรัสเซียจนกว่ากฎระเบียบระหว่างประเทศจะกลับคืนมา" ปธน.เซเลนสกีกล่าวหลังจากสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองชาติยังได้หารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือด้านกลาโหมเพิ่มเติมโดยเน้นที่อาวุธพิสัยไกล การประสานงานก่อนการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ณ กรุงวิลนีอุส ในเดือนหน้า และการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดสันติภาพโลก (Global Peace Summit)
ปธน.เซเลนสกีระบุในแถลงการณ์ว่า "เหตุการณ์เมื่อวานนี้ได้เผยให้เห็นความอ่อนแอของระบอบการปกครองของปูติน"
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกีเสริมว่า เขายังได้หารือทางโทรศัพท์กับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา เกี่ยวกับสถานการณ์เสี่ยงอันตราย ณ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง
ก่อนหน้านี้ ปธน.เซเลนสกีได้กล่าวเตือนว่า รัสเซียกำลังพิจารณาดำเนินการก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยกัมมันภาพรังสีจากโรงงาน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียปฏิเสธ
ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า "เหล่าพันธมิตรของยูเครนต้องแสดงการตอบสนองอย่างมีหลักการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมสุดยอดของนาโตที่เมืองวิลนีอุส"