สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พนักงานของร้านสตาร์บัคส์หลายสิบแห่งในสหรัฐได้หยุดงานประท้วงเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อข้อกล่าวหาสหภาพแรงงานบาริสต้าที่ระบุว่า ผู้จัดการร้านกาแฟหลายแห่งในสหรัฐปลดธงสีรุ้งและของตกแต่งที่สนับสนุนเทศกาล Pride Month ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)
รายงานระบุว่า เมื่อบ่ายวานนี้ พนักงานของสตาร์บัคส์หลายสิบคนได้รวมตัวกันปิดล้อมบริเวณด้านนอกของร้านสตาร์บัคส์แห่งหนึ่ง บนถนนแอสเตอร์ เพลส ย่านโลเวอร์ แมนฮัตตัน เมืองนิวยอร์ก ซึ่งใกล้กับเส้นทางเดินขบวนพาเหรดไพรด์ภายในเมือง พร้อมตะโกนว่า "นิวยอร์กเป็นเมืองแห่งสหภาพแรงงาน มาหยุดงานกัน และปิดร้านซะ!"
สมาชิกสหภาพแรงงานได้แจกใบปลิวและพูดคุยกับผู้คนที่สัญจรไปมาเกี่ยวกับการข้อพิพาทดังกล่าว ขณะที่ลูกค้าหลายรายเลือกที่จะไม่เข้าร้านเพื่อสนับสนุนการประท้วง
ขณะที่กำลังมีการจัดการเดินขบวนไพรด์ในนิวยอร์กซิตี, ซานฟรานซิสโก, ชิคาโก และซีแอตเติล ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสตาร์บัคส์ บาริสต้าและพนักงานคนของสตาร์บัคส์กล่าวว่า พวกเขารู้สึกไม่พอใจกับกรณีดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ โฆษกของสตาร์บัคส์ได้ออกมาชี้แจงว่า "เราสนับสนุนชุมชน LGBTQIA2+ อย่างมั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง การกล่าวหาว่าร้านของสตาร์บัคส์แบนของตกแต่งใด ๆ ก็ตามนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรามีความกังวลอย่างยิ่งจากการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของร้านที่สนับสนุนความหลากหลาย วัฒนธรรมองค์กร และผลประโยชน์ที่เรามอบให้แก่ลูกค้า"
แม้ว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ปัญหาดังกล่าวเริ่มก่อตัวขึ้นมาตั้งปีที่ผ่านมา โดยสหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ระบุว่า บริษัทได้คุกคามบรรดาผู้ก่อตั้งสหภาพแรงงาน ซึ่งหลายคนเป็นเกย์หรือทรานส์ โดยลดชั่วโมงการทำงานลง และทำให้พวกเขาไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ ซึ่งครอบคลุมถึงการผ่าตัดแปลงเพศและกระบวนการอื่น ๆ
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุเป็นคำกล่าวอ้างเท็จในหนังสือที่ยื่นต่อนางลินน์ ฟ็อกซ์ ประธานสหภาพแรงงานสากล (Workers United International) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.