ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เห็นพ้องกันในวันนี้ (29 มิ.ย.) ที่จะรื้อฟื้นสัญญาสวอปเงินตราต่างประเทศ (currency swap) มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ "เครือข่ายความปลอดภัยทางการเงินระดับภูมิภาค" โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและต่อยอดความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น
สัญญาสวอปเงินตราต่างประเทศ ซึ่งไม่เคยถูกใช้งานจริง เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2544 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการช่วยเหลือทั้งสองประเทศรับมือกับวิกฤตการเงิน แต่ข้อตกลงได้กล่าวถูกปล่อยให้หมดอายุไปเมื่อปี 2558 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศ
นายมาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศของญี่ปุ่นกล่าวกับนักข่าวว่า "การกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีมีความจำเป็นมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคได้เผชิญกับความไม่มั่นคงและความเสี่ยงครั้งใหญ่" พร้อมกล่าวเสริมว่า สัญญาสวอปเงินตราต่างประเทศคือส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะส่งเสริมความร่วมมือที่กว้างขวางมากขึ้น โดยในช่วงสูงสุดเมื่อปี 2554 ข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์
การรื้อฟื้นข้อตกลงเกิดขึ้นระหว่างที่นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นและนายชู คยองโฮ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเกาหลีใต้พบปะกันที่กรุงโตเกียวในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการหารือกันครั้งแรกในรอบ 7 ปีระหว่างรัฐมนตรีคลังของทั้งสองชาติ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสองยังร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และปัญหาหนี้สินในประเทศกำลังพัฒนา และบทบาทที่ทั้งสองประเทศจะสามารถมีส่วนร่วมได้ในด้านความร่วมมือทางการเงินแบบเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ การหารือด้านการเงินครั้งต่อไประหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะจัดขึ้น ณ กรุงโซลในปี 2567