ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสตัดสินใจเลื่อนภารกิจเดินทางเยือนเยอรมนี ขณะที่ฝรั่งเศสเผชิญเหตุจลาจลและการปล้นสะดมติดต่อกันเป็นคืนที่ 5 ในวันเสาร์ที่ 1 ก.ค. หลังเกิดเหตุตำรวจยิงนายนาเฮล เอ็ม วัย 17 ปี เชื้อสายแอลจีเรียและโมร็อกโกเสียชีวิตที่ชานเมืองนองแตร์เมื่อวันอังคารที่ 27 มิ.ย. เนื่องจากขับรถฝ่าด่านตรวจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การยกเลิกการประชุมกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนีครั้งนี้ถือเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เหตุจลาจลในฝรั่งเศสกำลังส่งผลกระทบต่อภารกิจระหว่างประเทศของปธน.มาครง หลังจากในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. ปธน.มาครงต้องออกจากการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ก่อนเวลา เพื่อรับมือกับเหตุจลาจล
ขณะที่ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ตำรวจและกลุ่มผู้ก่อจลาจลได้ปะทะกันในเมืองมาร์กเซยในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่า ตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ส่วนตำรวจเปิดเผยว่าสามารถจับกุมผู้ก่อจลาจลได้อย่างน้อย 56 รายเฉพาะในเมืองมาร์กเซยเมื่อวานนี้
นายเจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ตำรวจสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลเอาไว้ได้ทั้งหมด 427 รายเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาฝรั่งเศสและชื่นชมการปฏิบัติงานที่เด็ดเดี่ยวของตำรวจที่ทำให้สถานการณ์สงบขึ้นในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีการจัดพิธีศพแบบเป็นส่วนตัวให้กับนายนาเฮล เอ็มที่มัสยิดในแถบชานกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ค.
การเสียชีวิตของนายนาเฮล เอ็มทำให้เกิดเหตุจลาจลตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากนั้นสถานการณ์ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องมีการระดมกำลังตำรวจประมาณ 45,000 นายเข้าช่วยระงับเหตุจลาจลทั่วประเทศติดต่อกันเป็นคืนที่ 2 เมื่อวานนี้ โดยมีผู้ถูกจับกุมกว่า 1,300 รายในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. และอีกกว่า 900 รายในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย.