ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเมืองต่างก็จับตาท่าทีของรัฐบาลสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เกาหลีเหนือกล่าวหาว่า สหรัฐได้ส่งเครื่องบินสอดแนมรุกล้ำน่านฟ้าของเกาหลีเหนือ และขู่ว่าจะยิงเครื่องบินดังกล่าวให้ร่วง ซึ่งคำขู่ของเกาหลีเหนือได้สร้างความตึงเครียดก่อนที่การประชุมผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประจำปีจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์นี้ที่ประเทศลิทัวเนีย
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของเกาหลีเหนือรายงานว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือกล่าวว่า สหรัฐมีส่วนในการ "ข่มขู่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์อย่างโจ่งแจ้งมากที่สุด" โดยการวางแผนส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์มายังคาบสมุทร และกำลังดำเนิน "กิจกรรมแทรกซึมอย่างไม่เป็นมิตร" โดยส่งเครื่องบินสอดแนมมายังพื้นที่นอกชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ เกาหลีเหนืออ้างว่า โดรนและเครื่องบินสอดแนมหลายลำได้บินตามแนวชายฝั่งเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการบุกรุกน่านฟ้าของประเทศ ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลเกาหลีเหนือกล่าวว่า "ไม่มีอะไรรับประกันว่า เหตุการณ์ที่น่าตกใจ เช่นเครื่องบินสอดแนมทางยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศสหรัฐตก จะไม่เกิดขึ้น" พร้อมเสริมว่า ทางการเกาหลีเหนือจะดำเนินการเพื่อขัดขวางการ "กระทำอย่างไม่ยั้งคิด" ของสหรัฐ
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอยู่ในระหว่างการเยือนประเทศยุโรป โดยปธน.เดินทางถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อคืนวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ในการเริ่มต้นภารกิจเดินทางเยือน 3 ประเทศ รวมถึงการเข้าร่วมประชุมสุดยอดของนาโตที่กรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพกับยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย