นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาเรียกร้องในวันนี้ (13 ก.ค.) ให้ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูการค้ากับรัสเซียที่ซบเซาลง โดยใช้การประชุมในครั้งนี้นำเสนอการพึ่งพาสกุลเงินของแต่ละประเทศแทนดอลลาร์ เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
กระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุในการแถลงข่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นหลังจากรัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในช่วงต้นปี 2565 ทำให้การค้าระหว่างรัสเซียและประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ลดลง 4.4%
กระทรวงฯ กล่าวก่อนการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย ณ กรุงจาการ์ตา นอกรอบการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum - ARF) ว่า "เพื่อช่วยให้สถานการณ์เป็นไปอย่างถูกต้อง ประเด็นของการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการใช้สกุลเงินของแต่ละประเทศในการทำธุรกรรมกำลังได้รับการพิจารณา"
นายลาฟรอฟกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Kompas ของอินโดนีเซียว่า รัสเซียพร้อมสำหรับการทำงานจริงกับอาเซียนเพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น โดยระบุว่า "ไม่เพียงแต่รัสเซียเท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งก็กำลังพยายามลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง และเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบการชำระเงินทางเลือกและการชำระเงินด้วยสกุลเงินของชาติ"
ทั้งนี้ สมาชิกอาเซียนได้สนับสนุนให้ใช้เงินสกุลท้องถิ่นแทนเงินดอลลาร์เพื่อส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แม้ว่าการค้าโดยภาพรวมกับชาติอาเซียนจะลดลง แต่การค้าระดับทวิภาคีระหว่างรัสเซียกับอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของกลุ่ม กลับพุ่งทะยานขึ้น 45% เมื่อปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.79 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนายลาฟรอฟกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Kompas ว่า อินโดนีเซียและประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศพยายามที่จะรักษาความร่วมมือทางการค้ากับรัสเซียไว้ แม้ว่าจะมีการประณามจากการโจมตียูเครนก็ตาม