นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) ได้ตำหนิรัสเซียที่ถอนตัวออกจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ (Black Sea Grain Initiative) โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวของรัสเซียถือเป็นการใช้มนุษยชาติเป็นตัวประกัน
"รัสเซียได้สร้างผลกระทบต่อประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในกลุ่มเปราบาง รัสเซียกำลังใช้มนุษยชาติเป็นตัวประกัน ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงทะเลดำที่อำนวยความสะดวกในการขนส่งอาหารเกือบ 33 ล้านเมตริกตันไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกอย่างปลอดภัย"
"ข้อมูลจากโครงการอาหารโลก (WFP) ระบุว่า มีผู้คนกว่า 345 ล้านคนกำลังทุกข์ทรมานจากความไม่มั่นคงทางอาหารในระดับสูง และเรารู้ว่า สงครามอันโหดร้ายระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ทำให้ผู้คนหลายล้านคนต้องตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา"
"สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ทั่วโลกต้องพึ่งพาข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ และสมาชิกสหประชาชาติทุกท่านต้องร่วมมือกันเพื่อให้รัสเซียเปลี่ยนใจ" นางโธมัส-กรีนฟิลด์กล่าว ก่อนการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
รัสเซียประกาศยุติการมีส่วนร่วมในข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ก่อนที่ข้อตกลงดังกล่าวจะหมดอายุลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ทั้งนี้ สหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเจรจาให้มีข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำในเดือนก.ค.ปีที่แล้วเพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลกที่เกิดจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยที่ผ่านมานั้นข้อตกลงได้รับการต่ออายุมาแล้วหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้รัสเซียได้ตัดสินใจไม่เข้าร่วมในข้อตกลงดังกล่าว ท่ามกลางแสดงความไม่พอใจต่อการที่ข้อตกลงได้จำกัดการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยจากรัสเซีย
การตัดสินใจดังกล่าวของรัสเซียได้สร้างความไม่พอใจให้กับนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐและประเทศในฝั่งยุโรป ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ได้แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย