รัสเซียยิงถล่มท่าเรือในเมืองโอเดสซาของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนในวันนี้ (18 ก.ค.) ในเวลาเพียงหนึ่งวันหลังรัสเซียฉีกข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (UN) โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า รัสเซียตั้งใจจะกลับมาปฏิบัติการรุกรานพื้นที่ทางตะวันออกอีกครั้ง
ทั้งนี้ รัสเซียออกปฏิบัติการโจมตีท่าเรือของยูเครน หลังลั่นวาจาว่ารัสเซียจะตอบโต้เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบนสะพานของรัสเซียที่เชื่อมโยงระหว่างรัสเซียกับแคว้นไครเมียเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ซึ่งรัสเซียอ้างว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของโดรนจากยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในระยะเวลาเพียงไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดบนสะพานเมื่อวานนี้ รัสเซียก็ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงส่งออกธัญพืช อันเป็นการกระทำที่ UN ระบุว่า เสี่ยงที่จะทำให้เกิดความอดอยากทั่วโลก
นายอังเดร เยอร์มัค ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวผ่านเทเลแกรมว่า การโจมตีท่าเรือยูเครนในชั่วข้ามคืนของรัสเซียนั้นเป็นหลักฐานสำคัญอีกชิ้นที่บ่งชี้ว่า พวกผู้ก่อการร้ายในรัสเซียต้องการทำร้ายประชากร 400 ล้านชีวิตในประเทศต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพาการส่งออกอาหารจากยูเครน
กองทัพอากาศของยูเครนระบุว่า ขีปนาวุธ 31 ลูกและโดรน 31 จาก 36 ลำ ถูกยิงสกัดไว้ได้ โดยส่วนใหญ่ตกอยู่บริเวณชายฝั่งโอเดสซาและภูมิภาคมิโคลาอิฟ (Mykolaiv) ทางตอนใต้ของยูเครน