สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) นายฮอสเซน อามีร์อับดุลลาฮีอาน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน และนายบิลาวัล บุตโต-ซาร์ดารี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ร่วมกันประณามการดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอานที่เกิดขึ้นในสวีเดนและเดนมาร์กในการพูดคุยทางโทรศัพท์
แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศอิหร่านระบุว่า รัฐมนตรีทั้งสองกล่าวว่า กระทำที่ "ดูหมิ่นศาสนา" เช่นนี้ ขัดแย้งกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน
นายอามีร์อับดุลลาฮีอานระบุว่า การดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอานในสวีเดนและเดนมาร์กเมื่อไม่นานมานี้ ได้ทำร้ายความรู้สึกของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก และได้เสนอให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) เพื่อส่งสารไปยังประเทศอิสลามต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อการกระทำดังกล่าว
ขณะที่นายซาร์ดารีกล่าวถึงการมีส่วนร่วมของเขาในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) เมื่อต้นเดือนก.ค. ซึ่งสภาได้ลงมติประณามและคัดค้านอย่างรุนแรงต่อการสนับสนุนความเกลียดชังทางศาสนา รวมถึงการดูหมิ่นคัมภีร์อัลกุรอาน นอกจากนี้ นายซาร์ดารีได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการร่วมมือกับอิหร่านเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่า ประเทศอิสลามควรกำหนดให้การกระทำดังกล่าวเป็นอาชญากรรม และลงโทษผู้กระทำผิดผ่านการบังคับใช้กฎหมาย
ทั้งนี้ การเผาคัมภีร์อัลกุรอานหน้าสถานทูตอิรัก ณ กรุงโคเปนเฮเกน กรุงเมืองหลวงเดนมาร์ก เป็นฝีมือของกลุ่มคนรักชาติเดนมาร์ก (Danske Patrioter) นอกจากนี้ สมาชิกของกลุ่มยังถือป้ายที่มีข้อความดูหมิ่นศาสนาอิสลาม ก่อนที่จะเหยียบย่ำธงชาติอิรักและคัมภีร์อัลกุรอาน
กลุ่มผู้ประท้วงระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการประท้วงต่อการโจมตีสถานทูตสวีเดนที่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของประเทศอิรักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 ก.ค.)