ประชาชนอิสราเอลแห่ประท้วง หลังสภาผ่านร่างกฎหมายจำกัดอำนาจศาล

รัฐสภาอิสราเอลผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมฉบับแรก ซึ่งผลักดันเมื่อวันจันทร์ (24 ก.ค.) แม้ว่ามีความพยายามในนาทีสุดท้ายเพื่อหาทางประนีประนอมและแก้ไขวิกฤติรัฐธรรมนูญที่ส่งผลกระทบต่อประเทศมานานหลายเดือน

กฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติด้วยคะแนน 64 ต่อ 0 เสียง ซึ่งกลุ่มฝ่ายค้านต่างลุกออกจากที่นั่งและเดินออกจากสภาเพื่อประท้วง โดยบางคนแสดงความไม่พอใจ และตะโกนว่า "น่าอับอาย!"

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลผลักดันกฎหมายปฏิรูปดังกล่าว ซึ่งจะจำกัดอำนาจของศาลสูงสุด ไม่ให้สามารถพิจารณาการตัดสินใจใด ๆ ก็ตามของรัฐบาลและตัดสินให้เป็นโมฆะ หากเล็งเห็นว่าไม่สมเหตุสมผล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงต่อต้านกฎหมายนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันจันทร์ โดยบรรดาผู้ประท้วงปิดถนนนอกรัฐสภา หลายรายเอาโซ่ผูกตัวเองติดไว้กับเสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปลากพวกเขาออกมา ส่วนในช่วงเย็น ผู้คนหลายพันออกมาเดินประท้วงตามถนนทั่วประเทศ ปิดทางหลวงและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจกล่าวว่ามีการจับกุมผู้ประท้วงไปแล้วอย่างน้อย 19 คน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ยังคงยืนหยัดในการตัดสินใจผ่านกฎหมายดังกล่าว โดยนายยาริฟ เลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า การลงคะแนนผ่านร่างในวันจันทร์นับเป็น "ก้าวแรก" โดยนายเลวินคือผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบกฎหมายใหม่ที่นายเนทันยาฮูเชื่อว่าจำเป็นในการสร้างสมดุลให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล

กฎหมายปฏิรูปฉบับนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบตุลาการ ซึ่งรัฐบาลเสนอเมื่อเดือนม.ค. หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน โดยรัฐบาลเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อจำกัดการมีส่วนร่วมของศาลสูงสุดในเรื่องการเมือง เนื่องจากศาลเข้ามาแทรกแซงการเมืองมากเกินไป

ด้านบรรดานักวิจารณ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูสู่การใช้อำนาจในทางมิชอบ ด้วยการลบล้างอำนาจของระบบตุลาการในการตรวจสอบรัฐบาล