สื่อต่างประเทศหลายสำนักซึ่งรวมถึงบลูมเบิร์กและเอพีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณทวีตข้อความว่า เขาตัดสินใจเลื่อนวันเดินทางกลับประเทศไทย จากวันที่ 10 ส.ค.ไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่าแพทย์เรียกให้ไปตรวจร่างกาย
เอพีระบุว่า ข้อความของนายทักษิณที่ระบุผ่าน X หรือทวิตเตอร์นั้น ไม่ได้กล่าวถึงการเดินทางไปยังกัมพูชา แต่คลิปวิดีโอที่โพสต์ผ่านทางบัญชีติ๊กต๊อกอย่างเป็นทางการของสมเด็จฮุนเซนแสดงให้เห็นภาพของนายทักษิณยืนเคียงข้างสมเด็จฮุนเซนในงานเลี้ยงวันเกิด พร้อมด้วยบรรดาสมาชิกครอบครัวของสมเด็จฮุนเซน นอกจากนี้ วิดีโอยังปรากฎให้เห็นภาพของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของนายทักษิณ เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของสมเด็จฮุนเซนด้วย โดยงานเลี้ยงจัดขึ้นที่บ้านพักของสมเด็จฮุนเซนในกรุงพนมเปญ
ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซนได้โพสต์วิดีโอดังกล่าวซึ่งมีความยาวกว่า 1 นาที และระบุข้อความว่า " This year, my son, children and grandchildren joined by elders and younger ones, and my godbrother, gathered on my birthday at my home. (ปีนี้ ลูกชายของผม, ลูก ๆ และหลาน ๆ ของผม รวมทั้งบรรดาพี่น้อง และน้องชายอุปถัมภ์ของผม มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของผม)"
รายงานของเอพีระบุว่า นายทักษิณและสมเด็จฮุนเซนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และต่างก็เรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่า "godbrother (พี่ชาย/น้องชายอุปถัมภ์)" โดยในปี 2552 สมเด็จฮุนเซนได้แต่งตั้งนายทักษิณให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา แต่หลังจากนั้นไม่นานนายทักษิณได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากเฟรช นิวส์ (Fresh News) ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จฮุนเซน โดยระบุว่า นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาในการร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของสมเด็จฮุนเซนตลอดคืนของวันเสาร์ที่ 5 ส.ค. และได้เดินทางออกจากกัมพูชาในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 ส.ค. แต่ไม่ได้ระบุว่าทั้งสองเดินทางต่อไปยังที่ใด
พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลภายใต้การนำของสมเด็นฮุนเซน แห่งกัมพูชา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค. และต่อมาในวันที่ 26 ก.ค. สมเด็จฮุนเซนประกาศลาออกและส่งมอบอำนาจให้กับลูกชายคนโต หลังจากปกครองประเทศมานานเกือบ 40 ปี
อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเลือกตั้งในกัมพูชาครั้งนี้ไม่โปร่งใส พร้อมประกาศว่าจะระงับโครงการความช่วยเหลือบางโครงการในกัมพูชา และระงับการออกวีซ่าให้แก่บุคคลที่เล็งเห็นว่าบ่อนทำลายประชาธิปไตย