หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีน (CAC) เปิดเผยในวันนี้ (8 ส.ค.) ว่า ทางหน่วยงานได้ออกร่างกฎหมายสอดส่องดูแลการจัดการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีจดจำใบหน้าในจีน
CAC ระบุว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามารถใช้ประมวลผลข้อมูลใบหน้าได้ก็ต่อเมื่อมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจงและมีความจำเป็นเพียงพอ ทั้งยังต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด และจำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากตัวบุคคล
นอกจากนี้ หากพบว่ามีวิธีระบุตัวตนแบบที่ไม่ใช้ข้อมูลไบโอเมทริกซ์ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกัน ก็ควรใช้วิธีการดังกล่าวแทนการจดจำใบหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น เมื่อการระบุตัวตนโดยใช้ข้อมูลไบโอเมทริกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจดจำใบหน้า ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจีน ไม่ว่าจะใช้ในการเก็บขยะ จ่ายกระดาษทิชชู จนสร้างความวิตกกังวลให้ทั้งภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล
ด้านหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า ศาลและรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งในจีนได้สั่งปรับบริษัทต่าง ๆ ฐานใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้ามากเกินความจำเป็นมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของจีนในการกำกับดูแลข้อมูลที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยออกกฎและระเบียบต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามากที่สุดคือ การเปิดตัวกฎหมายฉบับแรกของจีนที่มุ่งเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ นั่นคือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Protection Law) ในปี 2564 เพื่อยับยั้งไม่ให้บริษัทต่าง ๆ ใช้ข้อมูลมากเกินไป