ผลสำรวจของยูกอฟ (YouGov) ระบุว่า ชาวอังกฤษไม่ถึง 10% เชื่อว่า นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะสามารถทำตามสัญญาของเขาในสกัดกั้นไม่ให้ผู้ขอลี้ภัยเดินทางเข้าสู่อังกฤษโดยเรือเล็กได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความล้มเหลวของนายซูนัคจนถึงขณะนี้ว่า ไม่สามารถปฏิบัติตามที่สัญญาไว้เกี่ยวกับประเด็นผู้อพยพ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อช่วงต้นปี นายซูนัคได้ให้คำมั่นสำคัญ 5 ประการเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การอพยพเข้าเมือง และการดูแลสุขภาพ ซึ่งเขาขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินเขา รวมถึงคำมั่นสัญญาที่จะ "หยุดเรือ" ของผู้อพยพ แต่จนถึงปีนี้ มีผู้ขอลี้ภัยแล้วกว่า 15,000 คนเดินทางถึงชายฝั่งของอังกฤษ แม้ว่าอัตรานี้จะต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ยูกอฟระบุว่า มีชาวอังกฤษเพียง 9% ที่ "มั่นใจ" หรือ "ค่อนข้างมั่นใจ" ว่า นโยบายของนายซูนัคในการลดจำนวนผู้อพยพจะได้ผล และ 80% ไม่มั่นใจในมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ ยูกอฟระบุเสริมว่า ชาวอังกฤษเกือบ 3 ใน 4 กล่าวว่า พวกเขาคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่แผนของรัฐบาลในการส่งตัวผู้ขอลี้ภัยไปยังรวันดาจะประสบผลสำเร็จ หลังจากที่นโยบายดังกล่าวถูกประกาศอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อปลายเดือนมิ.ย.
ในสัปดาห์นี้ อังกฤษเริ่มเคลื่อนย้ายผู้ขอลี้ภัยไปยังเรือบรรทุกสินค้าทางตอนใต้ของอังกฤษ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเข้าพักในโรงแรม
กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลกำลังจัดตั้งหน่วยงานเพื่อจัดการกับทนายความที่ไม่ซื่อสัตย์กลุ่มเล็กๆ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนผู้อพยพผิดกฎหมายให้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยปลอมเพื่อให้อยู่ในประเทศได้ต่อไป