แถลงการณ์จากทำเนียบนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ (10 ส.ค.) ว่า นายแอนโทนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลียเตรียมเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว
ผู้นำทั้งสองชาติจะร่วมหารือกันในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง สนธิสัญญาความมั่นคงออคัส (AUKUS) สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และแร่ธาตุที่สำคัญ ระหว่างการเยือนสหรัฐเป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันที่ 23-26 ต.ค.
นายอัลบาเนซีระบุในแถลงการณ์ว่า "การเยือนของผมเป็นโอกาสที่สำคัญในการหารือเกี่ยวกับความมุ่งมั่นด้านสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสะอาด ตลอดจนเป้าหมายที่มีร่วมกันเกี่ยวกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่แข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ และเจริญรุ่งเรือง"
การเดินทางเยือนดังกล่าวมีขึ้นเมื่อทั้งสหรัฐและออสเตรเลียต่างมีความกังวลร่วมกันเกี่ยวกับการเติบโตของจีน ที่กำลังผลักดันให้ทั้งสองประเทศที่เป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกันมาช้านานกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากสนธิสัญญาออคัส ซึ่งออสเตรเลียเตรียมจัดซื้อเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย (Virginia class) ของสหรัฐหลายลำและมีส่วนร่วมในการขยายอู่ต่อเรือสหรัฐมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
เดิมทีแล้ว ปธน.ไบเดนมีแผนจะเดินทางเยือนกรุงซิดนีย์ในเดือนพ.ค.ในการประชุมร่วมกับกลุ่มควอด (Quad) กลุ่มระดับภูมิภาคอย่างไม่เป็นทางการซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐ แต่แผนการดังกล่าวต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่กรุงวอชิงตัน
ทั้งนี้ ผู้นำทั้ง 4 ชาติได้ตัดสินใจพบปะกันในเดือนพ.ค.นอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ที่เมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น
ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ว่า การเยือนสหรัฐของนายอัลบาเนซีในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่ทั้งสองประเทศมีต่อภูมิอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างมากขึ้น มีเสถียรภาพ และเจริญรุ่งเรือง