หญิงแคนาดาโดนคุก 22 ปี เหตุจดหมายใส่ยาพิษถึง โดนัลด์ ทรัมป์ สมัยอยู่ในตำแหน่ง

ข่าวต่างประเทศ Friday August 18, 2023 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางปาสคาล เฟอร์เรียร์ หญิงชาวแคนาดา วัย 56 ปี ถูกตัดสินจำคุก 22 ปีในสหรัฐ หลังส่งจดหมายที่เจือปนด้วยพิษไรซิน ถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ในระหว่างที่เขายังดำรงตำแหน่ง โดยนางเฟอร์เรียร์ยอมรับคำตัดสิน หลังยอมรับสารภาพว่ามีความผิดในข้อหาใช้อาวุธชีวภาพ

จดหมายเจือยาพิษที่จ่าหน้าซองถึงนายทรัมป์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เขาถอนตัวจากการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยถัดไป โดยจดหมายได้ถูกยึดก่อนที่จะส่งถึงทำเนียบขาว

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) พบรอยนิ้วมือของนางเฟอร์เรียร์อยู่บนจดหมายดังกล่าว ซึ่งเนื้อความในจดหมายระบุว่า "ฉันมีชื่อใหม่ให้แกแล้ว ไอ้ตัวตลกทรราชย์อัปลักษณ์"

นางเฟอร์เรียร์กล่าวในชั้นศาลว่า รู้สึกเสียใจที่แผนการล้มเหลว และไม่อาจหยุดนายทรัมป์เอาไว้ได้ นอกจากนี้ เธอมองว่าตัวเธอนั้นเป็นนักเคลื่อนไหว ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และเสริมว่า "ฉันต้องการหาหนทางแบบสันติวิธีเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย"

นางเฟอร์เรียร์ยอมรับว่า ได้ทำไรซิน ซึ่งเป็นยาพิษที่ทำจากของเหลือจากการแปรรูปเมล็ดละหุ่งที่บ้านของเธอในรัฐควิเบกของแคนาดา และใส่ลงในซองจดหมาย

นอกจากนี้ นางเฟอร์เรียร์ยังรับสารภาพว่า เธอได้ส่งจดหมายเจือพิษในลักษณะเดียวกันแก่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐเท็กซัส 8 คน

นางแด็บนีย์ ฟรีดริช ผู้พิพากษาศาล ตัดสินจำคุกนางเฟอร์เรียร์ 262 เดือนหรือ 22 ปี โดยหลังจากรับโทษครบกำหนดแล้ว นางเฟอร์เรียร์จะถูกเนรเทศออกจากสหรัฐ และหากกลับมายังสหรัฐอีกครั้ง ก็จะถูกคุมความประพฤติตลอดชีวิต

ผู้พิพากษาฟรีดริช กล่าวว่า การกระทำของจำเลยอาจเป็นภัยและอันตรายทั้งต่อตัวจำเลยเอง อันตรายต่อสังคม และอันตรายต่อผู้อื่นที่อาจตกเป็นเหยื่อ

ด้านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า นางเฟอร์เรียร์เคยถูกควบคุมตัวเป็นเวลาประมาณ 10 สัปดาห์ ในปี 2562 จากกรณีพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาตและขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และในเดือนก.ย. 2563 นางเฟอร์เรียร์ถูกจับกุมอีกครั้ง ขณะเดินทางข้ามพรมแดนไปยังเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก โดยที่พกพาอาวุธปืน มีด และกระสุนปืนไว้กับตัว

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษไรซิน ซึ่งสามารถทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 36 - 72 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ