เว็บไซต์ข่าวไฉซิน มีเดีย (Caixin Media) รายงานว่า รัฐบาลกลางของจีนวางแผนที่จะอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นจำหน่ายพันธบัตรพิเศษมูลค่า 1.5 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 2.06 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมเงินทุนในการบรรเทาหนี้สิน
ทั้งนี้ ภูมิภาค 12 แห่งในจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันในการต้องชำระหนี้คืนให้กับรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงเทียนจิน กุ้ยโจว ยูนนาน ส่านซี และฉงชิ่ง ขณะที่ไฉซินระบุว่า ธนาคารกลางจีนอาจจัดตั้งหน่วยงานพิเศษร่วมกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อจัดหาสภาพคล่องระยะยาวที่มีต้นทุนต่ำให้กับโครงการระดมเงินทุนของรัฐบาลท้องถิ่น (LGFV) ด้วยความหวังว่าจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องให้กับโครงการ LGFV
หนี้ของโครงการ LGFV เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินของจีน โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เคยกล่าวถึงปัญหานี้ว่าเป็นหนึ่งใน "ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ" ที่จีนต้องเผชิญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อเดือนมิ.ย. ว่า รัฐบาลจีนได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบทั่วประเทศเพื่อประเมินตัวเลขหนี้ที่รัฐบาลท้องถิ่นแบกรับอยู่ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของทางการจีนในจัดการกับความเสี่ยงทางการเงิน
มอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 โดยระบุว่าการลงทุนภายในประเทศอ่อนแอลง เนื่องจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการที่รัฐบาลท้องถิ่นของจีนเผชิญกับแรงกดดันด้านการเงิน
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ซึ่งนำโดยนายโรบิน ซิง คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 จะขยายตัว 4.7% ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5% และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2567 ลงสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.5%