รัฐบาลออสเตรเลียบรรลุข้อตกลงซื้อขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก (Tomahawk Cruise Missiles) จำนวนกว่า 200 ลูกจากสหรัฐ คิดเป็นมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (833 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการโจมตีระยะไกล และเป็นส่วนหนึ่งของแผนเสริมความแข็งแกร่งด้านการป้องกันประเทศเป็นวงกว้าง
นายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียจะเป็น 1 ใน 3 ชาติเท่านั้นที่ถือครองโทมาฮอว์กร่วมกับสหรัฐและอังกฤษ
นายมาร์เลสกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เรากำลังลงทุนในศักยภาพที่กองกำลังป้องกันของเราต้องการ เพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้เข้าใกล้ชายฝั่งของเรา และทำให้ชาวออสเตรเลียปลอดภัยในโลกที่ซับซ้อนและไม่แน่นอนที่เราอาศัยอยู่ในทุกวันนี้"
ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้อนุมัติการขายโทมาฮอว์ก ซึ่งมีระยะยิงอยู่ที่ 1,500 กิโลเมตร (932 ไมล์) เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุวันเวลาลงนามในสัญญาหรือเวลาที่การเจรจาสิ้นสุดลงแต่อย่างใด
นายมาร์เลสระบุว่า โทมาฮอว์ก ซึ่งผลิตโดยบริษัท อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ป (RTX Corp) จะถูกติดตั้งให้กับเรือพิฆาตชั้นโฮบาร์ต (Hobart-class) ของกองทัพเรือออสเตรเลีย (RAN)
ออสเตรเลียระบุว่า กองทัพจำเป็นต้องยกระดับการป้องกันตัวเอง เนื่องจากจีนกำลังสร้างกองทัพที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
ในช่วงต้นปี 2566 ออสเตรเลียตกลงที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐและอังกฤษเพื่อพัฒนาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์
กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียระบุว่า นอกจากเหนือจากขีปนาวุธโทมาฮอว์กแล้ว ออสเตรเลียจะทุ่มเม็ดเงินอีกราว 431 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อซื้อขีปนาวุธนำวิถีป้องกันรังสีขั้นสูงมากกว่า 60 ลูกจากสหรัฐอีกด้วย