นายโอเลกซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) ว่า ยูเครนวางแผนจะเพิ่มการผลิตโดรนอย่างเร็วที่สุดในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยยูเครนใช้โดรนเป็นอาวุธในการโจมตีดินแดนรัสเซียบ่อยครั้ง และเพิ่มการโจมตีมากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนส่งโดรนไปโจมตีดินแดนในรัสเซียเพิ่มมากขึ้น และโจมตีไกลถึงเมืองปัสคอฟทางตะวันตก ซึ่งอยู่ห่างจากยูเครนถึง 600 กิโลเมตร และบางครั้งมีการใช้โดรนโจมตีมากกว่า 10 ลำในวันเดียว นอกจากนี้แล้ว ยูเครนยังใช้โดรนทางอากาศในการโจมตีสนามบิน และใช้โดรนใต้น้ำในการโจมตีเรือและสะพานไครเมีย
"ผมคิดว่าในฤดูใบไม้ร่วงนี้ การผลิตโดรนหลายชนิดในยูเครนจะเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโดรนทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก ซึ่งปริมาณการผลิตจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายเรซนิคอฟกล่าวกับสำนักข่าวยูครินฟอร์มของรัฐบาลยูเครน
นายเรซนิคอฟ กล่าวว่า เหตุผลประการหนึ่งที่จะทำให้การผลิตเติบโตขึ้นก็คือรัฐบาลยูเครนได้ผ่อนคลายกฎระเบียบและข้อกฎหมายต่าง ๆ
ทั้งนี้ ยูเครนพึ่งพาอาวุธสมัยใหม่จากชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก แต่ยูเครนให้ให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้อาวุธเหล่านี้ในดินแดนรัสเซีย แต่จะใช้เฉพาะอาวุธที่ผลิตในประเทศเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่คือโดรน
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ย.) ว่า รัสเซียได้ทำลายโดรนยูเครนไปแล้วทั้งหมด 281 ลำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงโดรนจำนวน 29 ลำในพื้นที่ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าสงครามโดรนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในขณะนี้