สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเตรียมเดินทางสำรวจโครงการรถไฟความเร็วสูงในอินโดนีเซียที่ได้รับเงินสนุนจากจีน ขณะที่ทางญี่ปุ่นเน้นย้ำความตั้งใจที่จะช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานระบุว่า นายหลี่ และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ต่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ ณ กรุงจาการ์ตา ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยังคงแน่นิ่ง จากกรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีลงสู่มหาสมุทร
ทั้งนี้ 2 ประเทศมหาอำนาจของเอเชียได้แข่งขันกันเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐานแก่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยชาวญี่ปุ่นต่างผิดหวังเมื่อต้องพ่ายแพ้ให้กับจีนสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง
แม้ว่าการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าวจะเผชิญปัญหาและความล่าช้ามากมาย แต่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 ต.ค. หลังจากทดลองเปิดให้บริการแบบซอฟต์ โอเพนนิ่ง (Soft opening) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.)
การเดินทางสำรวจโครงการรถไฟของนายหลี่ พร้อมกับนายลูฮัต บินซาร์ ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีประสานงานกิจการทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซีย มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่นายคิชิดะประกาศในการประชุมว่า ญี่ปุ่นจะพยายามสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในอาเซียน โดยเน้นย้ำถึงเป้าหมายความร่วมมือ 6 ด้าน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างญี่ปุ่นและอาเซียน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียกล่าวว่า อาเซียนหวังว่าญี่ปุ่นจะสามารถยกระดับการมีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคได้ โดยอาเซียนจำเป็นต้องใช้เงิน 1.84 แสนล้านดอลลาร์ในการใช้จ่ายต่อปี