ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำ กล่าวว่าการที่จีนกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจทำให้จีนหันเหความสนใจในการรุกรานไต้หวัน พร้อมเสริมว่า ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน "ยุ่งจนงานล้นมือ"
ปธน.ไบเดน ได้พบปะกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ที่อินเดีย จากนั้นได้เดินทางไปเยือนเวียดนามในวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวที่เวียดนามได้สอบถามว่า เพราะเหตุใดเขาถึงไม่ได้พบปะกับปธน.สีมานานถึง 10 เดือน ซึ่งปธน.ไบเดนตอบว่า ปธน.สีกำลังงานยุ่งมากในขณะนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.สีไม่เข้าร่วมการประชุม G20 โดยไม่มีการอธิบายเหตุผลเพราะว่าเพราะอะไร ดังนั้นโอกาสความเป็นไปได้ที่ปธน.ไบเดนจะได้พบปธน.สีอีกครั้งคือการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก ของสหรัฐ ในเดือนพ.ย. นี้
ปธน.ไบเดนกล่าวอีกล่าว "ขณะนี้จีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่ท้าทายในหลาย ๆ ประการ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และการไม่มีนโยบายรับมือที่มากเพียงพอ"
"ผมไม่คิดว่าปัญหาเหล่านี้จะทำให้จีนรุกรานไต้หวัน ซึ่งในทางกลับกัน จีนอาจไม่มีขีดความสามารถมากเท่ากับที่มีก่อนหน้านี้" ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงฮานอย
ปธน.ไบเดนยังได้กล่าวถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในการแข่งขันเรื่องความมุ่งมั่นด้านเทคโนโลยี
จีนกำลังวางแผนห้ามใช้โทรศัพท์ไอโฟน (iPhone) ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งจะเป็นการสร้างผลกระทบให้กับบริษัทแอปเปิ้ล และก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560 สภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามไม่ให้หน่วยงานบางส่วนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ใช้อุปกรณ์จากหัวเว่ย และแซดทีอี (ZTE) ของจีน
"ผมจะไม่ขายวัสดุที่จะเพิ่มศักยภาพในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติม หรือใช้ในกิจกรรมด้านกลาโหมให้กับจีน" ปธน.ไบเดนกล่าว