กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยในวันพุธ (13 ก.ย.) ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน "จะไม่ลังเล" ในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียและเกาหลีเหนือ หากทั้งสองประเทศทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธรอบใหม่
คำเตือนของนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐมีขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากผู้สื่อข่าวถามความเห็นเกี่ยวกับการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
"ที่ผ่านมานั้น เราได้ใช้มาตรการไปแล้วหลายด้านเพื่อคว่ำบาตรผู้ที่เป็นคนกลางในการซื้อขายอาวุธระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย และเราจะไม่ลังเลในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หากพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม"
"เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งที่รัสเซียและเกาหลีเหนือกำลังหารือเพื่อเพิ่มความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และเมื่อคุณมองดูความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองประเทศนี้ คุณจะเห็นความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการโยกย้ายด้านการทหาร ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่ากังวลมาก และอาจจะละเมิดมติของ UNSC หลายข้อ" นายมิลเลอร์กล่าว
นายคิมได้พบปะกับปธน.ปูตินที่รัสเซียในวันพุธ (13 ก.ย.) ขณะที่สหรัฐแสดงความกังวล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่านายคิมและปธน.ปูตินอาจจะหารือกันเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในการทำสงครามกับยูเครน
สหรัฐและชาติพันธมิตรยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้เมื่อไม่นานมานี้ว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองนั้น มีความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยการพบปะกันระหว่างนายคิมและปธน.ปูตินในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยพบปะกันในปี 2562
รายงานล่าสุดระบุว่า ปธน.ปูตินได้ตอบรับคำเชิญของนายคิมในการเยือนเกาหลีเหนือ โดยผู้นำทั้งสองได้กล่าวชื่นชม "ความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ" ระหว่างการประชุมในรัสเซีย