สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายสตีเฟน บายเยอร์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 22 เดือนเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ในข้อหาซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในที่เขาได้มาในปี 2561 ในฐานะที่ปรึกษาของบริษัทที-โมบาย ยูเอส อิงค์ (T-Mobile US Inc) ก่อนการควบรวมกิจการมูลค่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์กับบริษัทสปริ๊นท์ (Sprint)
นายริชาร์ด เบอร์แมน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐในนครนิวยอร์กได้ตัดสินจำคุกนายบายเยอร์ในข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ 4 กระทงในการพิจารณาคดีเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายบายเยอร์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐของพรรครีพับลิกันจากรัฐอินดีแอนาในระหว่างปี 2536-2554 ก่อนที่จะมาทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับบริษัทที-โมบาย
โจทก์กล่าวในการพิจารณาคดีว่า นายบายเยอร์ซื้อหุ้นสปริ๊นท์หลังทราบข้อมูลจากผู้บริหารของที-โมบายว่า บริษัทโทรคมนาคมทั้งสองแห่งอยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการในปี 2561 และนายบายเยอร์ได้ทำการซื้อขายอย่างผิดกฎหมายอีกครั้งในปีถัดไป
ตามคำกล่าวของฝ่ายโจทก์ นายบายเยอร์ได้กำไรจากการซื้อขายหุ้นสปริ๊นท์มากกว่า 1 แสนดอลลาร์ และทำเงินได้มากกว่า 2 แสนดอลลาร์ จากการซื้อหุ้นบริษัทนาวิแกนต์ คอลซัลติ้ง อิงค์ (Navigant Consulting Inc.) ก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะถูกไกด์เฮาส์ (Guidehouse) ซื้อกิจการในปี 2562
โจทก์ได้ขอให้ศาลตัดสินจำคุกนายบายเยอร์เป็นเวลา 3 ปี โดยกล่าวว่าเขาได้ละเมิดความไว้วางใจของลูกค้าและให้การเท็จในชั้นศาล ด้านนายบายเยอร์ขอให้ศาลเปลี่ยนโทษเป็นการถูกกักบริเวณที่บ้านแทนการติดคุก โดยให้เหตุผลว่าเขาเคยทำหน้าที่รับใช้ชาติในกองทัพสหรัฐและในสภาคองเกรส
ทั้งนี้ นายบายเยอร์ได้ขึ้นให้การต่อศาลและปฏิเสธข้อกล่าวหาซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน
นายบายเยอร์กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว