นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) ว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง เขาจะโยกย้ายทรัพยากรทั้งหมดจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ของรัฐบาลกลาง และจะส่งกองกำลังของสหรัฐในต่างแดนไปประจำการที่ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
ทั้งนี้ นายทรัมป์กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวต่อผู้สนับสนุนของเขาที่รัฐไอโอวา ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันนัดแรกในเดือนม.ค.เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. 2567
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังให้คำมั่นว่าจะสั่งห้ามการเดินทางของผู้คนจากหลายประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เช่นเดียวกับที่เขาเคยสั่งห้ามสมัยที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2560-2564
นายทรัมป์กล่าวว่า การเดินทางข้ามพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกอย่างผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดนนั้นเป็น "การรุกราน" โดยพยายามกล่าวโทษฝ่ายบริหารชุดปัจจุบัน
ปธน.โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตเองก็จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัยเช่นเดียวกัน และอาจมีศึกนัดล้างตากับนายทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน
นายทรัมป์กล่าวในการหาเสียงที่เมืองดูบิวก์ว่า "เมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้ว ผมจะยกเลิกนโยบายเปิดพรมแดนทั้งหมดของรัฐบาลไบเดนในทันที ผมจะทำให้ชัดเจนว่า เราต้องทำทุกวิถีทางและใช้ทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อหยุดยั้งการรุกราน ซึ่งรวมถึงการโยกย้ายกองกำลังนับพันที่ประจำการอยู่ในต่างแดนด้วย"
นายทรัมป์ได้เปิดเผยนโยบายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งรวมถึงการขยายมาตรการแบนประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านายทรัมป์จะเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมายใด ๆ หากดำเนินมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของปธน.ไบเดนได้ออกมาปกป้องนโยบายเกี่ยวกับพรมแดน โดยระบุว่า ฝ่ายบริหารกำลังใช้เครื่องมือที่มีในการจัดการ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านกฎหมายเพื่อแก้ไขระบบที่มีปัญหา