ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ พุ่งขึ้นเป็น 1,100 รายแล้วในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
การสู้รบกันครั้งนี้เปิดฉากขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล และจับตัวประกันไว้หลายคน รวมถึงแรงงานไทยจำนวนหนึ่ง
ทางด้านอิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารเอาคืนกลุ่มฮามาสอย่างสาสม เนื่องจากการถูกโจมตีจากกลุ่มฮามาสในครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
สำหรับสถานการณ์ของคนไทยในอิสราเอลนั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยข้อมูลที่ได้รับรายงานจากนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่า มีพี่น้องแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 ราย, ถูกจับเป็นตัวประกันไว้จำนวน 11 ราย และยังมีพี่น้องแรงงานชาวไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ได้สั่งการฑูตแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ให้คุ้มครองดูแล และช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุด พร้อมประสานกระทรวงต่างประเทศ และหน่วยงานในประเทศอิสราเอล ในการช่วยเหลืออพยพแรงงานไทยไปยังที่ปลอดภัย พร้อมการวางแผนในการนำพี่น้องแรงงานไทยกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยภายในเวลาอันใกล้นี้