คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (8 ต.ค.) ว่า อิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล โดยมีชาวอิสราเอลถูกสังหารกว่า 700 ราย และอีกหลายสิบรายถูกจับเป็นตัวประกัน
"การดำเนินการมาตรการอันเด็ดเดี่ยวของปาเลสไตน์ถือเป็นการป้องกันตนเองอย่างชอบธรรมต่อการยึดครองอย่างกดขี่และอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่กระทำโดยระบอบไซออนิสต์ที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมมาตลอด 7 ทศวรรษ" คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิหร่านสนับสนุนกลุ่มฮามาสอย่างเปิดเผยมาโดยตลอด โดยให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งให้การสนับสนุนกลุ่มญิฮาดในปาเลสไตน์อีกด้วย
"เราขอยืนหยัดอย่างหนักแน่นในการสนับสนุนปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตอบโต้ของปาเลสไตน์ เนื่องจากเป็นการกระทำโดยปาเลสไตน์แต่เพียงผู้เดียว" คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าว
การที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ถือเป็นการโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามยมคิปปูร์ (Yom Kippur War) ซึ่งเป็นสงครามที่อียิปต์และซีเรียโจมตีอิสราเอลเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และกลุ่มฮามาสได้ขู่ว่าจะจุดชนวนเพลิงสงครามอีกครั้งในความขัดแย้งอันยาวนานนี้
ด้านอิสราเอลได้ตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาสด้วยการโจมตีทางอากาศเข้าใส่อาคารบ้านเรือน อุโมงค์ มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 400 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงเด็ก 20 ราย
คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติชี้ว่า ความสำเร็จของปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสนั้นเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และก่อให้เกิดความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดแก่องค์กรด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ของอิสราเอล
"อิสราเอลพยายามที่จะกล่าวโทษอิหร่านสำหรับความล้มเหลวของตนเองและกล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตี เนื่องด้วยศักยภาพด้านข่าวกรองและการวางแผนปฏิบัติการของอิหร่าน" คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าวเสริม