นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐได้เดินทางไปยังอิสราเอลเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) เพื่อยับยั้งไม่ให้สงครามในตะวันออกกลางลุกลามบานปลาย หลังเกิดการโจมตีและการจับตัวประกันของกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ และการที่อิสราเอลปูพรมทิ้งระเบิดใส่ฉนวนกาซา
ในการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรในตะวันออกกลางที่ใกล้ชิดกับสหรัฐมากที่สุดนั้น นายบลิงเกนมีกำหนดเข้าพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนของอิสราเอล ซึ่งอาจรวมถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติม
นายบลิงเกนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนออกเดินทางไปยังอิสราเอลว่า "ผมขอพูดชัด ๆ อีกครั้งว่า สหรัฐสนับสนุนอิสราเอล"
นายบลิงเกนจะทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับภูมิภาคของสหรัฐ เพื่อพยายามปลดปล่อยตัวประกันมากกว่า 100 คนที่อิสราเอลระบุว่า ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ ซึ่งบางคนอาจเป็นพลเมืองสหรัฐ
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และสังหารประชาชนไปกว่า 1,200 ราย และจับตัวประกันจำนวนมากไปยังฉนวนกาซา
นายบลิงเกนกล่าวว่า ชาวสหรัฐอย่างน้อย 22 รายถูกสังหารระหว่างที่เกิดการโจมตีดังกล่าว
"จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก" นายบลิงเกนกล่าว และเสริมว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลเพื่อตัดสินชะตากรรมของพลเมืองสหรัฐคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ทราบแน่ชัด
เมื่อถูกถามว่า สหรัฐสนับสนุนให้อิสราเอลตอบโต้อย่างยับยั้งชั่งใจหรือไม่ โดยหลายฝ่ายคาดว่าจะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา นายบลิงเกนกล่าวว่า อิสราเอลเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและพยายามหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน
นายบลิงเกนกล่าวว่า "เราทราบดีว่าอิสราเอลจะดำเนินมาตรการป้องกันทั้งหมดเท่าที่ทำได้ เราเองก็เช่นกัน และนี่คือสิ่งที่แยกเราออกจากกลุ่มฮามาสและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ ที่มีส่วนในการกระทำอันหยาบช้าที่สุดในครั้งนี้"