สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปูพรมถล่มฉนวนกาซาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) โดยพลเรือนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาระบุว่า นี่เป็นการถล่มครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 9 วันนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งขึ้น
ในขณะที่กาซากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์ระบุว่า อิสราเอลได้ตกลงที่จะระงับการยิงถล่มดินแดนทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยคาดว่าจะเปิดชายแดนเมืองราฟาห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เพื่ออนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติเดินทางออกมาจากฉนวนกาซาได้ โดยเมืองราฟาห์เป็นช่องทางเดียวที่จะสามารถข้ามเข้าสู่เขตแดนฉวนกาซาที่ไม่ได้ครอบครองโดยอิสราเอล
ทว่าในเวลาต่อมา สำนักนายกรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลกลับระบุในแถลงการณ์ว่า "เวลานี้ยังไม่มีการสงบศึกและการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังฉนวนกาซา เพื่อแลกกับการเดินทางออกมาอย่างปลอดภัยของชาวต่างชาติ"
กองทัพอิสราเอลและสถานทูตสหรัฐในอิสราเอลไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่จากกลุ่มฮามาส ที่บุกโจมตีพลเรือนอิสราเอลตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ไม่ได้ยืนยันเรื่องการหยุดยิงเช่นกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์เกี่ยวกับชายแดนเมืองราฟาห์ยังคงไม่ชัดเจน โดยอิสราเอลได้ปิดล้อมฉนวนกาซาเต็มรูปแบบส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหาร