OCAD ซึ่งเป็นศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายของเบลเยียม ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุดภายในกรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม หลังเกิดเหตุยิงชาวสวีเดนเสียชีวิต 2 รายในกรุงบรัสเซลส์ ใกล้กับสนามฟุตบอลที่กำลังแข่งขันรอบคัดเลือกระหว่างสวีเดนกับเบลเยียมในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2567 เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (16 ต.ค.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาเล็กซันเดอร์ เดอ โกร แห่งเบลเยียมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย
ขณะเดียวกันศูนย์ OCAD ยังได้ยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุดอันดับ 2 สำหรับพื้นที่ที่เหลือของประเทศด้วย
นางลอรา เดอมูลเลียร์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ OCAD ระบุในการให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกที่เจ้าหน้าที่ต้องทำในเวลานี้คือการนำแฟนบอลหลายพันรายออกจากสนามฟุตบอลอย่างปลอดภัย โดยเหตุการณ์ยิงกันดังกล่าวส่งผลให้ต้องยกเลิกการแข่งขันรอบคัดเลือกทันที
นางเดอมูลเลียร์เปิดเผยว่า เหตุยิงกันครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากสนามฟุตบอลประมาณ 5 กิโลเมตร (3 ไมล์) โดยเวลานั้นมีแฟนบอลอยู่ในสนามมากกว่า 35,000 ชีวิต ขณะที่ มือปืนยังคงลอยนวล "ประชาชนจำเป็นต้องระมัดระวังตัวและหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น"
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า คนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนไรเฟิลในการก่อเหตุ ขณะที่ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินได้ปิดล้อมถนนบริเวณรอบ ๆ เอาไว้ หลังเกิดเหตุไล่ยิงเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันจันทร์ (16 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 24.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ มีชายคนหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่าเป็นมือปืนผู้ก่อเหตุดังกล่าว พร้อมประกาศว่าตนเองมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส
รายงานระบุว่า การยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุด หรือระดับ 4 หมายความว่า "ภัยคุกคามอยู่ในขั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง" ขณะที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 2 ซึ่งหมายความว่าภัยคุกคามอยู่ในระดับปานกลาง
ก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ระบุว่า "ตามที่ปรากฏข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา มีการชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเบลเยียมและลักเซมเบิร์ก คาดว่าอาจมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้พื้นที่สาธารณะที่มีการชุมนุมประท้วงดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ จึงขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมประท้วงหากไม่จำเป็น โดยเฉพาะในกรุงบรัสเซลส์และเมืองอันต์เวิร์ป ติดตามข่าวสารท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง
กรณีคนไทยประสบเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทาง
หมายเลข โทร. ฉุกเฉิน +32 470 85 96 67
หรือทาง Facebook Page: Royal Thai Embassy Brussels
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง