ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จีนทั้งในอดีตและปัจจุบัน 10 รายกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลจีนได้ขยายขอบเขตการควบคุมการเดินทางออกนอกประเทศนับตั้งแต่ปี 2564 โดยครอบคลุมการสั่งห้ามเดินทางไปต่างประเทศ การจำกัดความถี่และความยาวนานของทริปเดินทาง กระบวนการอนุมัติที่ยุ่งยาก และการฝึกอบรมเรื่องการรักษาความลับก่อนออกเดินทาง โดยมาตรการเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคโควิด-19 แต่อย่างใด
แม้แต่ละคนจะให้รายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป แต่ล้วนกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่ารัฐบาลจีนได้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ แม้มีการเปิดพรมแดนจีนอีกครั้งตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวเหล่านี้เป็นข้าราชการและพนักงานในองค์กรของรัฐบาลจีน
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์ยังพบว่า องค์กร 8 แห่งของรัฐบาลจีนได้ออกประกาศแจ้งต่อสาธารณชน 8 ฉบับตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในประกาศดังกล่าวบ่งชี้ว่าทางองค์กรได้คุมเข้มกฎระเบียบด้านการเดินทางออกนอกประเทศแบบเป็นส่วนตัวของพนักงาน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว โดยองค์กรเหล่านี้ได้รวมถึง กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติจีน
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ยังพบว่า เจ้าหน้าที่ส่วนกลางและท้องถิ่นจีนได้พยายามตรวจสอบความสัมพันธ์ส่วนบุคคลและครอบครัวของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนกับประเทศอื่น ๆ
ผู้เชี่ยวชาญ 2 รายระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้นสะท้อนถึงความสนใจด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยปัญหาระหว่างจีนกับชาติตะวันตก โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจีนได้ส่งเสริมให้พลเมืองเข้าร่วมกิจกรรมต่อต้านการจารกรรมและออกกฎหมายฉบับใหม่ที่ขยายขอบเขตการนิยามคำว่าการสอดแนม