นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของอเมริกาที่มีต่ออิสราเอล ณ กรุงเทลอาวีฟเมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) พร้อมกล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซาว่าเป็นต้นเหตุของการระเบิดโรงพยาบาล ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
"ตามข้อมูลที่เราพบเห็นจนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าเหตุระเบิดโรงพยาบาลเป็นผลมาจากการยิงจรวดพลาดเป้าโดยกลุ่มก่อการร้ายในฉนวนกาซา" นายไบเดนกล่าว
นายไบเดนยังให้คำมั่นที่จะมอบเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 1 ล้านรายที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นเนื่องจากความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่
นอกจากนี้ นายไบเดนยังกล่าวว่า เขาวางแผนจะเสนอขอโครงการการสนับสนุนสำหรับการป้องกันประเทศของอิสราเอลจากสภาคองเกรส ซึ่งเป็นการสนับสนุนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายไบเดนเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุระเบิดโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อัล-อาราบีในฉนวนกาซา
"สหรัฐมีจุดยืนที่ชัดเจนในการปกป้องชีวิตพลเรือนในระหว่างที่เกิดความขัดแย้ง และผมเศร้าเสียใจต่อหลาย ๆ ครอบครัวที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้" นายไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ นายไบเดน กล่าวเสริมว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถูกส่งผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ขององค์การสหประชาชาติ (UN) และหน่วยงานเอ็นจีโอระหว่างประเทศต่าง ๆ พร้อมเตือนกลุ่มฮามาสว่าอย่ายึดเสบียงเหล่านี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในฉนวนกาซา
"ผมขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า หากฮามาสทำลายหรือขโมยสิ่งของสำหรับช่วยเหลือ มันจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่มีความใส่ใจต่อความเป็นอยู่ประชาชนชาวปาเลสไตน์" นายไบเดนระบุ พร้อมเสริมว่าจะระงับการช่วยเหลือ หากการช่วยเหลือไม่ถูกส่งไปถึงพลเรือน