รัฐบาลอิสราเอลออกแถลงการณ์ในวันพุธ (18 ต.ค.) ว่า อิสราเอลจะไม่ปิดกั้นความช่วยเหลือที่ส่งเข้าสู่ฉนวนกาซาผ่านทางประเทศอียิปต์ แต่จะไม่อนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือแก่กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์ หลังจากรัฐบาลอิสราเอลได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐซึ่งพยายามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันคลี่คลายวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
ก่อนหน้านี้ อียิปต์ซึ่งมีพรมแดนติดกับฉนวนกาซาเช่นเดียวกับอิสราเอลนั้น ได้รวบรวมความช่วยเหลือไว้ที่บริเวณชายแดนฝั่งอียิปต์ แต่รถบรรทุกไม่สามารถข้ามผ่านชายแดนเข้าไปยังฉนวนกาซาได้เนื่องจากอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส
หลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลได้ทำการปิดกั้นทางเข้าออกของฉนวนกาซาซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดเล็กแต่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมากถึง 2.3 ล้านคน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ถูกตัดไฟฟ้าและทำให้การลำเลียงอาหารและเชื้อเพลิงต้องหยุดชะงัก
อย่างไรก็ดี ล่าสุดทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า "อิสราเอลจะไม่ปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอียิปต์ที่จะนำเข้าสู่ฉนวนกาซา ตราบใดที่ความช่วยเหลือเหล่านี้เป็นเพียงอาหาร น้ำ และยารักษาโรคสำหรับพลเมืองที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาตอนใต้หรือผู้ที่อพยพเข้าไปยังพื้นที่แห่งนี้ และตราบใดที่ความช่วยเหลือเหล่านั้นจะไม่ถูกส่งให้กับกลุ่มฮามาส"
"การตัดสินใจไม่ปิดกั้นเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือครั้งนี้ เกิดขึ้นตามคำร้องขอจากปธน.ไบเดน แต่อิสราเอลจะยังคงปิดกั้นเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยชนที่ส่งผ่านทางอิสราเอลเข้าไปยังฉนวนกาซา ตราบใดที่ตัวประกันของเรายังไม่ถูกปล่อยตัวกลับมา และความช่วยเหลือใด ๆ ก็ตามที่ถูกส่งถึงกลุ่มฮามาสจะถูกขัดขวางอย่างแน่นอน" ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ อิสราเอลได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในฉนวนกาซาให้อพยพจากพื้นที่ตอนเหนือไปยังตอนใต้เพื่อความปลอดภัยในระหว่างที่กองทัพอิสราเอลสู้รบกับกลุ่มฮามาส