นายทอร์ เวนเนสแลนด์ ผู้ประสานงานพิเศษด้านกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางขององค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นนั้น กำลังผลักดันให้ภูมิภาคตะวันออกกลางไปสู่หน้าผาของ "เหวอันตราย" และมีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะลุกลามบานปลาย
นายเวนเนสแลนด์กล่าวว่า "โลกกำลังใกล้จะตกเหวที่ลึกและอันตรายที่ซึ่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อาจพลิกไปสู่สถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่น"
"ความขัดแย้งนี้นับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดที่ชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ต้องเผชิญในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา" นายเวนเนสแลนด์กล่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. กลุ่มฮามาสได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมถึงแทรกซึมเข้าไปในอิสราเอลด้วย โดยกลุ่มฮามาสสังหารผู้คนไปมากกว่า 1,000 ราย และจับคนเป็นตัวประกันมากกว่า 200 ราย รวมทั้งเด็กเล็กและคนชรา
อิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อฉนวนกาซา ซึ่งเป็นดินแดนปิดล้อมของปาเลสไตน์ที่ปกครองโดยกลุ่มฮามาส และนับตั้งแต่นั้นมา ฉนวนกาซาก็ถูกทิ้งระเบิดทางอากาศติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน
นายเวนเนสแลนด์เตือนว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ได้จุดชนวนความคับข้องใจที่มีมาอย่างยาวนาน และทำให้พันธมิตรกลับมารวมตัวกันทั่วทั้งภูมิภาค ความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะแพร่กระจายออกไปนั้นมีโอกาสสูงเป็นอย่างมาก และเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง
ในการแถลงข่าวนั้น นายเวนเนสแลนด์ระบุว่า การพบปะกับผู้นำของอียิปต์มุ่งเน้นไปที่การหารือเรื่องการอำนวยความสะดวกให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ได้ง่ายขึ้น โดยจุดผ่านแดนราฟาห์ตั้งอยู่ที่ริมชายแดนฉนวนกาซาและอียิปต์ และเป็นจุดข้ามแดนเพียงแห่งเดียวระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซา
"ขั้นตอนต่อไปจะต้องเป็นความพยายามร่วมกันเพื่อยุติความเป็นศัตรู และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวในภูมิภาค" นายเวนเนสแลนด์กล่าว