กระทรวงกลาโหมของจีนประณามกระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอนของสหรัฐที่ออกรายงานประจำปีเกี่ยวกับจีน โดยจีนระบุว่า รายงานดังกล่าวบิดเบือนนโยบายความมั่นคงและยุทธศาสตร์ทางทหารของจีน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุในรายงานที่ยื่นต่อรัฐสภาสหรัฐว่า จีนจะพัฒนา เพิ่มความหลากหลาย และขยายกองกำลังนิวเคลียร์อย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายระดับชาติของจีน รวมถึงนโยบายการป้องกันและยุทธศาสตร์ทางทหาร
กระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า 500 ลูก และอาจมีหัวรบมากกว่า 1,000 ลูกภายในปี 2573 โดยจีนจะใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบให้กำเนิดเชื้อเพลิงอย่างเร็ว (fast-breeder reactor) และโรงงานแปรรูปเพื่อผลิตพลูโทเนียมสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ของจีน แม้เปิดเผยต่อสาธารณะว่า เทคโนโลยีนี้มีจุดประสงค์ที่สันติก็ตาม
"เราแสดงความไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านรายงานฉบับนี้" นายอู๋ เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนระบุในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่า รายงานนี้กล่าวเกินจริงและสร้างข้อกล่าวหาถึงการเป็นภัยคุกคามทางทหารของจีนซึ่งไม่มีอยู่จริง
นายอู๋กล่าวว่า การพัฒนากองทัพของจีนมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากสงคราม ปกป้องความมั่นคงของจีน และปกป้องสันติภาพโลก และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศหรือเป้าหมายใดโดยเฉพาะ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตอบโต้ล่าสุดระหว่าง 2 ประเทศเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่จีนจะต้อนรับเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมต่างประเทศในการประชุมเซียงซาน ครั้งที่ 10 ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค.นี้ โดยสหรัฐตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุม หลังจากที่จีนปฏิเสธการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมของ 2 ประเทศเมื่อไม่กี่เดือนก่อน