เปิดประวัติ "หลี่ เค่อเฉียง" อดีตนายกฯจีนผู้จากไปด้วยวัยเพียง 68 ปี

ข่าวต่างประเทศ Friday October 27, 2023 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายหลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีนได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 68 ปี โดยสำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า นายหลี่ซึ่งพำนักอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันและถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเวลา 00.10 น.ในวันนี้ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่แพทย์ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ

นายหลี่สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าเขาได้ถึงแก่อสัญกรรมในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากสิ้นสุดการทำหน้าที่ โดยข่าวดังกล่าวได้สร้างความตกใจและเสียใจให้กับประชาชนชาวจีน เนื่องจากนายหลี่เป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่สร้างผลงานมากมายให้กับประเทศ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 5%

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รวบรวมประวัติและผลงานโดยย่อของนายหลี่ไว้ดังนี้ว่า นายหลี่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่การที่เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายหู จิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีจีนนั้น ทำให้บางครั้งเขามักจะมีทัศนะคติที่ไม่ตรงกับนายสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากนายหู จิ่นเทา

ในขณะที่นายหลี่สิ้นสุดการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้วนั้น นายสี จิ้นผิง กลับได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนติดต่อกัน 3 สมัยอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์จีน และได้แต่งตั้งนายหลี่ เฉียง คนสนิทให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ในปีนี้

ในปี 2020 นายหลี่ เค่อเฉียงได้สร้างปรากฎการณ์ด้วยการกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนกว่า 600 ล้านคนในประเทศจีนยังคงมีรายได้ต่อเดือนเพียง 1,000 หยวน (137 ดอลลาร์) ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่พอแม้แต่จะเช่าห้องพักขนาดกลางในเมืองใดเมืองหนึ่งของจีน

ความมุ่งมั่นในการบริหารประเทศของนายหลี่ได้นำไปสู่การสร้างดัชนีอย่างไม่เป็นทางการที่ชื่อว่า "หลี่ เค่อเฉียง อินเด็กซ์ (Li Keqiang Index)" ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้ปริมาณการใช้ไฟฟ้า, การขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร เป็นมาตรวัดคุณภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของจีนถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องของความแม่นยำ

ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายหลี่ได้ผลักดันความร่วมมือด้านการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการไหลเวียนของประชาชนและสินค้าภายในประเทศจีน นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญการสร้างผู้ประกอบการและนวัตกรรมครั้งใหญ่

ในปี 2015 นายหลี่ได้ใช้เวทีในการแถลงรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการเปิดตัวยุทธศาสตร์ "Made in China 2025" ซึ่งเป็นความพยายายามที่จะสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับจีน โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสหรัฐและยุโรปอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ นายหลี่เกิดที่มณฑลอันฮุยในเดือนก.ค. 1955 เขาสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และได้รับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ โดยนายหลี่ได้เข้าเป็นกรรมาธิการถาวรของคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในปี 2007


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ