นายลอยด์ เจ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า กองทัพสหรัฐได้เปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีสถานที่ 2 แห่งในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียในวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยสถานที่ดังกล่าวถูกใช้งานโดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (Islamic Revolution Guard Corps ? IRGC) เพื่อตอบโต้ที่ IRGC ทำการโจมตีกองกำลังของสหรัฐ
"สหรัฐไม่ต้องการความขัดแย้ง และไม่มีเจตนาหรือความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ แต่การที่ IRGC โจมตีกองกำลังทหารสหรัฐนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ และเราต้องหยุดการกระทำนั้น" นายลอยด์กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังทหารของสหรัฐและชาติพันธมิตรถูก IRGC โจมตีอย่างน้อย 12 ครั้งในอิรัก และ 4 ครั้งในซีเรีย ส่งผลให้ทหารสหรัฐจำนวน 21 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง
"ปฏิบัติการโจมตีเพื่อการป้องกันตนเองในครั้งนี้ เป็นการตอบสนองต่อการที่บุคลากรทางทหารของสหรัฐถูกกลุ่ม IRGC โจมตีหลายครั้งในอิรักและซีเรียนับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. หากกลุ่ม IRGC โจมตีทหารของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง เราก็จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องประชาชนของเราโดยไม่ลังเล" นายลอยด์กล่าว
ทั้งนี้ สหรัฐมีกองกำลังทหาร 900 นายประจำการอยู่ในซีเรียและ 2,500 นายประจำการในอิรัก ซึ่งทหารเหล่านี้มีภารกิจในการให้คำแนะนำและช่วยเหลือกองกำลังทหารในท้องถิ่นที่พยายามป้องกันตนเองจากการรุกรานของกลุ่มรัฐอิสลามซึ่งเข้ายึดพื้นที่บางส่วนในอิรักและซีเรียเมื่อปี 2557 แต่ประสบกับความพ่ายแพ้ในเวลาต่อมา