รายงานของสื่อและนักวิเคราะห์ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจปิดสถานทูตมากถึง 12 แห่ง ซึ่งรวมถึงในสเปน ฮ่องกง และอีกหลายประเทศในแอฟริกา โดยการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้สถานทูตของเกาหลีเหนือเกือบ 1 ใน 4 ทั่วโลก ถูกปิดตัวลง
กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุเมื่อวันอังคาร (31 ต.ค.) ว่า การปิดสถานทูตของเกาหลีเหนือเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับสถานที่ยากลำบากในการหาเงินในประเทศอื่น ๆ เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันจันทร์ (30 ต.ค.) เอกอัครราชทูตของประเทศเดินทางเยือนเพื่ออำลา ผู้นำแองโกลาและยูกันดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสื่อท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศก็รายงานว่าการปิดตัวของสถานทูตเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ แองโกลาและยูกันดาต่างก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 หรือช่วงปี คศ. 2513 รวมถึงรักษาความร่วมมือทางการทหารและให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เกาหลีเหนือผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ การสร้างรูปปั้น
นายแชด โอคาร์โรลล์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เอ็นเค โปร (NK Pro) ที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือระบุนรายงานวันพุธ (1 พ.ย.) ว่า การปิดสถานทูตเป็นการปูทางสู่สิ่งที่อาจเป็น "การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ" ซึ่งส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมทางการทูต กิจกรรมด้านมนุษยธรรมของเกาหลีเหนือ รวมไปถึงความสามารถในการสร้างรายได้ที่ผิดกฎหมาย
นายโอคาร์โรลล์กล่าวว่า สถานทูตมากกว่า 12 แห่งอาจต้องปิดตัวลง ซึ่งอาจเป็นผลจากการมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ แนวโน้มที่เกาหลีเหนือจะแยกตัวโดดเดี่ยวออกจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจเกาหลีเหนือกำลังอ่อนแอลง
ทั้งนี้ กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวว่า การปิดสถานทูตสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับเงินทุนสำหรับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ