สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) สำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ว่า ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศราว 690,000 รายลี้ภัยอยู่ในศูนย์พักพิง 149 แห่งที่ดำเนินการโดย UNRWA และชี้ว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซาตอนนี้นั้นสิ้นหวัง
UNRWA ระบุว่า ศูนย์พักพิงของเรามีผู้ลี้ภัยอยู่เกือบ 4 เท่าของปริมาณที่สามารถรองรับได้ตามปกติ และสภาพความแออัดเช่นนี้ สร้างความกังวลด้านสุขภาพและด้านการคุ้มครองผู้ลี้ภัยอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ UNRWA กล่าวว่า ศูนย์พักพิงมีจำนวนสมาชิกมากเกินไป และมีรายงานการขาดแคลนน้ำ, อาหาร, เชื้อเพลิง และไฟฟ้าในเขตฉนวนกาซา
กองทัพอิสราเอลได้แจ้งให้พลเรือนปาเลสไตน์ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอพยพไปยังดินแดนทางตอนใต้ ขณะที่การปูพรมทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องได้ทำลายที่อยู่อาศัยอื่น ๆ หมดสิ้น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้พบปะกับนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) นอกรอบการประชุมสุดยอดความปลอดภัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Safety Summit) ซึ่งจัดขึ้นในอังกฤษ โดยที่การประชุมส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งทั้งสองได้หารือกันถึงวิธีเร่งความช่วยเหลือในฉนวนกาซาผ่านด่านชายแดนราฟาห์
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขกาซาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9,061 ราย และบาดเจ็บ 32,000 ราย นับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งส่งผลให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการปิดล้อมฉนวนกาซาและทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง