นายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมีแนวโน้มที่จะลุกลามเป็นสงครามในระดับภูมิภาค และฮิซบอลเลาะห์มีเป้าหมายหลักในการทำให้ฮามาสมีชัยชนะเหนืออิสราเอล และยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้อยแถลงของนายนาสราลเลาะห์ในวันนี้ไม่รุนแรงอย่างที่มีการคาดการณ์ไว้ โดยไม่มีการประกาศสงครามโดยตรงต่ออิสราเอล และไม่มีการปลุกระดมให้นักรบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เพิ่มการโจมตีอิสราเอล
แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นการกล่าวปราศรัยต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของนายนาสราลเลาะห์ นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกข้ามพรมแดนโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.
อย่างไรก็ดี นายนาสราลเลาะห์ได้บันทึกการปราศรัยดังกล่าวไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ในวันนี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของเลบานอน
นายนาสราลเลาะห์กล่าวว่า การต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นการทำสงครามที่ชี้ขาด ไม่ใช่การปะทะกันเหมือนที่ผ่านมา และเขายืนยันว่า การโจมตีของกลุ่มฮามาสในวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งทำให้มีชาวอิสราเอลเสียชีวิตราว 1,400 รายนั้น เป็นปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งดำเนินการภายใต้ความลับ โดยไม่มีการเปิดเผยต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
นายนาสราลเลาะห์ระบุว่า การต่อสู้ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้อิสราเอลต้องนำกำลังทหาร 1 ใน 3 ของกองทัพบก และครึ่งหนึ่งของกองทัพเรือมาคุ้มกันชายแดนตอนเหนือ แทนที่จะนำไปโจมตีฉนวนกาซา
นายนาสราลเลาะห์เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งจะถูกยกระดับสูงสุดในแนวรบด้านเลบานอน ซึ่งหากอิสราเอลทำการโจมตีครั้งใหญ่ต่อเลบานอน ก็จะถือเป็นการทำเรื่องที่โง่เขลาที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
"เราเปิดกว้างต่อทางเลือกทุกอย่างที่เกี่ยวกับแนวรบด้านเลบานอน ซึ่งหากอิสราเอลยังคงโจมตีพลเรือนในเลบานอน เราก็จะแก้แค้นกลับแบบ 1 ชีวิตแลก 1 ชีวิต" นายนาสราลเลาะห์กล่าว และเสริมว่า อิสราเอลจะไม่มีทางบดขยี้กลุ่มฮามาส และสุดท้ายจะเป็นชัยชนะของฉนวนกาซา และศัตรูจะพ่ายแพ้
นอกจากนี้ นายนาสราลเลาะห์เรียกร้องให้สหรัฐยุติสงครามดังกล่าว มิฉะนั้นผลประโยชน์ของสหรัฐ รวมทั้งทหารและกองทัพสหรัฐ จะตกเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดของสงครามในภูมิภาค