สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางเยือนอิรักโดยไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้าเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) ขณะที่เขาอยู่ในระหว่างการเยือนตะวันออกกลาง เพื่อบรรเทาความตึงเครียด หลังการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสปะทุขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ภายหลังจากการเยือนเวสต์แบงก์ นายบลิงเกินได้เดินทางไปเยือนกรุงแบกแดด ในฐานะนักการทูตระดับสูงของสหรัฐเป็นครั้งแรก เพื่อหารือกับนายโมฮัมเหม็ด ชีอะห์ อัล-ซูดานี นายกรัฐมนตรีของอิรัก
ทั้งนี้ สหรัฐต้องการที่จะยับยั้งไม่ให้ความขัดแย้งดังกล่าวลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาค และได้ยกระดับทางการทูตกับกลุ่มประเทศที่ไม่พอใจกับการบุกโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล
เครื่องบินของนายบลิงเกนลงจอดที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด โดยตัวเขาสวมเสื้อเกราะกันกระสุน ก่อนออกเดินทางต่อโดยเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กไปยังเขตกรีนโซน นายบลิงเกนได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อสิ่งปลูกสร้างของสหรัฐ ณ บ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐ ก่อนที่จะเดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี
รายงานระบุว่า นายบลิงเกนเตรียมเดินทางต่อไปยังตุรกีในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ซึ่งยังคงมีการประท้วงยังคงดำเนินอยู่
ด้านกองกำลังคาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ประกาศเตือนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 พ.ย.) ว่า การเดินทางเยือนของนายบลิงเกนครั้งนี้จะพบกับ "การบานปลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า การโจมตีด้วยจรวดและโดรนต่อกองกำลังสหรัฐและกองกำลังผสม ทวีความรุนแรงขึ้นในอิรักและซีเรีย นับตั้งแต่ที่เกิดการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งจุดชนวนให้อิสราเอลดำเนินปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรงต่อฉนวนกาซา
นอกจากนี้ กลุ่มติดอาวุธของอิรักที่ยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับอิหร่าน ขู่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐด้วยขีปนาวุธและโดรน หากสหรัฐเข้าแทรกแซงเพื่อสนับสนุนอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา