สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัสเซียส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้ว่า จะไม่ยอมอยู่เฉยกับการที่ประเทศตะวันตกพยายามกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียกลาง ซึ่งถือเป็นขอบเขตอิทธิพลของรัสเซียในอดีต และเปรียบเสมือนหลังบ้านของรัสเซีย
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนคาซัคสถานในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) ด้วยความต้องการที่จะรักษาขอบเขตอิทธิพลในภูมิภาคที่กำลังลดน้อยลงเรื่อย ๆ โดยการเยือนของนายปูตินมีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางเยืยนคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน
ทำเนียบเครมลินของรัสเซียระบุว่า นายปูตินจะพบปะกับ นายคาสซิม โจมาร์ท โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถานในพฤหัสบดี (9 พ.ย.) โดยการหารือในครั้งนี้มีมุ่งเน้นไปที่การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับคาซัคสถานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความร่วมมือในภูมิภาคยูเรเชีย ตลอดจนปัญหาระดับภูมิภาคและปัญหาระดับโลก
รัสเซียต้องการรักษาอิทธิพลในเอเชียกลาง ภูมิภาคที่ประกอบด้วย คีร์กีซสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นบรรดาประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสภาพโซเวียต ท่ามกลางการแข่งขันทางเศรษฐกิจจากจีนที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น และความสนใจทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นของชาติตะวันตก ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่รัสเซีย และรัสเซียไม่ยอมรับเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเร็วๆ นี้ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย วิพากษ์วิจารณ์ความพยาพยามสร้างความสัมพันธ์ของชาติตะวันตกในเอเชียกลาง หลังมีการพบปะกันหลายครั้งระหว่างบรรดาผู้นำเอเชียกลางกับผู้นำสหรัฐและยุโรปในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยนายลาฟรอฟกล่าวหาชาติตะวันตกว่ากำลังพยายามล่อลวงเพื่อนบ้าน มิตรสหาย และพันธมิตรให้ถอยห่างออกจากรัสเซีย