องค์กรการแพทย์และสาธารณสุขระดับโลกเรียกร้องให้ผู้นำโลกยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลโดยเร็ว ก่อนหน้าการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ถึง 12 ธ.ค. โดยระบุว่าสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้วที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงทั่วโลก
"การหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างเต็มรูปแบบและรวดเร็วเป็นที่วิธีที่ดีที่สุดเพื่อรักษาให้มีอากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ซึ่งเป็นรากฐานของการมีสุขภาพที่ดี" องค์กรการแพทย์และสาธารณสุข ระบุในจดหมายเปิดผนึกถึง สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นประธานการประชุม COP28
อนึ่ง องค์กรต่าง ๆ ที่รวมตัวการส่งจดหมายดังกล่าว รวมถึง สมาคมการแพทย์โลก และสมาคมกุมารแพทย์นานาชาติ โดยทุกองค์กรมีสมาชิกรวมกัน 46.3 ล้านคน
แม้ว่าการประชุม COP28 กำหนดให้วันที่ 3 ธ.ค. เป็นวันสุขภาพเป็นครั้งแรก สำหรับการอภิปรายที่มุ่งเน้นถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ผู้ลงนามในจดหมายเน้นย้ำว่าการประชุมจะต้องจัดการกับประเด็นหลักที่ทำให้เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งก็คือการสกัดและการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง
จดหมายยังเน้นย้ำว่า นอกเหนือจากผลกระทบด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว มลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังเป็นสาเหตุให้ผู้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากถึง 7 ล้านรายต่อปี พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลสามารถลดผลกระทบของโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และภาวะทางระบบประสาทต่าง ๆ และโรคอื่น ๆ อีกมากลงได้ ด้วยการปรับปรุงคุณภาพอากาศ
ผู้นำด้านการแพทย์และสาธารณสุขยังได้วิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิสที่ขัดขวางการดำเนินการด้านสภาพอากาศ ในระหว่างการเจรจาของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่ควรได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมที่ยืดเยื้อมายาวนานหลายทศวรรษอีกต่อไป ซึ่งขัดขวางความคิดริเริ่มและความก้าวหน้าด้านสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ การจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้อยู่ในเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส ที่กำหนดโดยข้อตกลงปารีสถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรับประกันทั้งสุขภาพที่ดีและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจสำหรับทุกคน