สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาที่จะกลับมาทำข้อตกลงซื้อเครื่องบินรุ่น 737 Max ของบริษัทโบอิ้งอีกครั้งเมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ พบปะเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ซานฟรานซิสโกในสัปดาห์นี้
แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.สี จิ้นผิงอาจจะไม่เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคำสั่งซื้อเครื่องบิน 737 Max เนื่องจากโดยปกติแล้วคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งจะอยู่ในรูปแบบของการทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (MOU) หรือหนังสือแสดงเจตจำนง โดยเงื่อนไขของการทำข้อตกลงซื้อเครื่องบินโบอิ้งรุ่นดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้ ก่อนที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะพบปะกันในวันพุธที่ 15 พ.ย.
ทั้งนี้ โบอิ้งยังคงรอคอยที่จะกลับมาส่งมอบเครื่องบิน 737 MAX ให้กับสายการบินจีน หลังจากการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวได้หยุดชะงักลงตั้งแต่ปี 2560 อันเนื่องมาจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวประสบอุบัติเหตุตกถึง 2 ครั้ง
อย่างไรก็ดี จีนได้กลับมาอนุมัติการขึ้นบินของเครื่องโบอิ้ง 737 MAX อีกครั้งในช่วงต้นปีนี้ และนับจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ประมาณ 90% ในจีนได้กลับมาบินในเชิงพาณิชย์แล้ว
โบอิ้งปรับเพิ่มการคาดการณ์อุปสงค์เครื่องบินใหม่ของจีนในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยระบุถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์การเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยโบอิ้งคาดการณ์ว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ความต้องการเครื่องบินพาณิชย์ในประเทศจีนจะอยู่ที่ 8,560 ลำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 8,485 ลำในการคาดการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน โบอิ้งคาดการณ์ว่า ความต้องการเครื่องบินเจ็ทของจีนจะเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า แตะระดับเกือบ 9,600 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า และคาดว่าตลาดการบินภายในประเทศของจีนจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในช่วง 20 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าอุปสงค์เครื่องบินแบบมีช่องทางเดินเดียว (single-aisle plane) เช่น เครื่องบินรุ่น 737 MAX จะอยู่ที่ 6,470 ลำ
ทำเนียบขาวและกระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะจัดการเจรจาระดับทวิภาคีแบบพบหน้ากันกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันที่ 15 พ.ย. นอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ซานฟรานซิสโก
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งได้ประสบความตึงเครียดตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังจากที่ปธน.ไบเดนสั่งยิงบอลลูนของจีนที่ล่วงล้ำน่านฟ้าสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าเป็นบอลลูนสอดแนม ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของสหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐและจีนยังมีประเด็นความขัดแย้งทางการค้าและไต้หวัน
ทั้งนี้ คาดว่าในการพบกันในวันที่ 15 พ.ย. ผู้นำสหรัฐและจีนจะหารือกันในหลากหลายประเด็น นับตั้งแต่ไต้หวัน, ทะเลจีนใต้, การค้าเซมิคอนดักเตอร์, สิทธิมนุษยชน, สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส