สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนมีแนวโน้มที่จะเปิดอกหารือกันประเด็นไต้หวันเมื่อทั้งคู่พบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเมืองซานฟรานซิสโกในวันพุธ (15 พ.ย.) ในขณะที่ทั้งคู่พยายามจะพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน
ปธน.ไบเดนและปธน.สีพยายามจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่มาถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ หลังเมื่อหนึ่งปีก่อนทั้งคู่ได้พบปะกันครั้งแรกในฐานะผู้นำประเทศที่การประชุมสุดยอด G20 ณ เกาะบาหลีเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย โดยความพยายามพลิกฟื้นความสัมพันธ์ในปีที่แล้วถูกทำลายจากกรณีที่สหรัฐเปิดเผยว่า ตรวจพบบอลลูนสอดแนมของจีนเหนือน่านฟ้าสหรัฐในเดือนก.พ.
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐกับจีนได้กลับมาติดต่อกันในระดับสูงอีกครั้ง เช่น การที่นายแอนโดนี บลิงเกิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งและการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน
รายงานระบุว่า สหรัฐพึงพอใจต่อการพบปะหารือกันระหว่างผู้นำสหรัฐและจีน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐมองว่าการประชุมครั้งนี้จะไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ที่ความตึงเครียดประเด็นไต้หวันยังคงร้อนระอุ โดยไต้หวันมีกำหนดจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนม.ค.
"เราไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมากมายนัก เป้าหมายจริง ๆ คือการจัดการเรื่องการแข่งขัน ป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งทวีความเลวร้ายมากขึ้น และรับประกันว่าทั้งสองฝ่ายจะเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างกันต่อไป" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐระบุ
เจ้าหน้าที่สหรัฐรายดังกล่าวระบุด้วยว่า การเลือกตั้งของไต้หวันและสหรัฐในปีหน้าบ่งชี้ว่า ความสัมพันธ์ของสหรัฐกับจีนในปี 2567 จะค่อนข้างขรุขระ ซึ่งส่งผลให้มีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูง