เมียนมาสั่งเคอร์ฟิวเมืองซิตตเว หลังกองทัพกับกลุ่มก่อความไม่สงบปะทะเดือด

เอกสารของรัฐบาลเมียนมาและสื่อมวลชนระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้สั่งเคอร์ฟิวหรือสั่งห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของประเทศเมียนมา ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่

ประกาศแจ้งจากหน่วยงานฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นเมียนมาลงวันที่ 13 พ.ย. ระบุว่า ห้ามไม่ให้ประชาชนในเมืองซิตตเวเดินทางออกนอกเคหสถานหลัง 21.00 น.และธุรกิจร้านค้าต้องปิดดำเนินงานตั้งแต่เวลา 20.30 น. มิฉะนั้นจะได้รับโทษทางกฎหมาย

สำนักข่าวนารินจารา นิวส์ (Narinjara News) และเวสเทิร์น นิวส์ (Western News) ซึ่งเป็นสำนักข่าวท้องถิ่นของเมียนมาได้รายงานเรื่องการสั่งเคอร์ฟิวครั้งนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม โฆษกของรัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

ชาวบ้านและโฆษกกองทัพอาระกัน (AA) ระบุว่า เกิดการสู้รบทั่วรัฐยะไข่ โดยกองทัพอาระกันเป็นกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องการปกครองตนเอง ซึ่งเพิ่งยึดด่านกองทัพเมียนมาในเมืองระเต่ดอง (Rathedaung) และมี่น-บย่า (Minbya) ของรัฐยะไข่

ชาวบ้านในเมืองระเต่ดองให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้ (14 พ.ย.) เกิดการยิงปืนใหญ่ขึ้นในคืนที่ผ่านมาและทหารของกองทัพเมียนมาได้บุกเข้ามาในเมือง

"กระสุนปืนใหญ่ตกลงบนถนนในเมืองระเต่ดองคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต" ชาวบ้านรายหนึ่งระบุ

"ผู้คนต่างเริ่มหลบหนีออกจากเมือง เวลานี้ทหารเข้ามาในเมืองแล้ว"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้ผู้นำกองทัพเมียนมากำลังเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 หลังกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพเปิดปฏิบัติการโจมตีในช่วงปลายเดือนต.ค. โดยสามารถยึดเมืองและด่านทหารได้บางส่วน

อนึ่ง กลุ่มพันธมิตรภราดรภาพนั้นประกอบด้วยสมาชิก 3 ฝ่าย ได้แก่ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) กองทัพแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติดาระอั้ง (TNLA) และกองทัพอาระกัน (AA)