สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ (14 พ.ย.) ว่า เนปาลสั่งแบน ติ๊กต๊อก (TikTok) เนื่องจากมีเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อความปรองดองสมานฉันท์ในสังคม โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เนปาลออกกฎใหม่ ซึ่งกำหนดให้บรรดาบริษัทโซเชียลมีเดียต้องจัดตั้งสำนักงานประสานงานในประเทศ
นางเรขา ชาร์มา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศของเนปาลกล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีภาษาเนปาลว่า TikTok เผยแพร่เนื้อหาที่เป็นอันตราย พร้อมเสริมว่าการแบนดังกล่าวจะมีผลทันที และหน่วยงานด้านโทรคมนาคมต่าง ๆ ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการตามคำตัดสินนี้
รายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า มีคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับ TikTok ในเนปาลมากกว่า 1,600 คดีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
TikTok มีผู้ใช้ประมาณ 1 พันล้านคนต่อเดือน แม้ว่าจะตามหลังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) แต่การเติบโตในกลุ่มวัยรุ่นนั้นนับว่าแซงหน้าบรรดาคู่แข่งไปมาก
TikTok ถูกตรวจสอบจากรัฐบาลทั่วโลก เนื่องจากมีข้อกังวลว่าข้อมูลผู้ใช้อาจถูกส่งไปให้รัฐบาลจีน
นอกจากนี้ TikTok ยังถูกแบนในหลายประเทศ รวมถึงอินเดีย ด้านปากีสถานแบน TikTok มาแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 และอินโดนีเซียก็ได้สั่งปิดบริการชอปปิงออนไลน์บน TikTok เมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ รัฐมอนแทนาของสหรัฐเป็นรัฐแรกที่สั่งแบน TikTok ในขณะที่รัฐสภาอังกฤษก็มีคำสั่งห้ามใช้งาน TikTok ในองค์กรของรัฐด้วยเช่นกัน