ทั้งนี้ นายซอกล่าวว่า กองทัพเมียนมาได้เผชิญการโจมตีอย่างหนักจากกองกำลังกบฎติดอาวุธในรัฐฉานทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา รัฐกะยาทางภาคตะวันออกของเมียนมา และรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา
นายซอกล่าวด้วยว่า ทหารต้องอพยพออกจากด่านบางแห่ง ขณะที่ กลุ่มก่อความไม่สงบใช้โดรนทิ้งระเบิดหลายร้อยลูกลงบนด่านทหารเหล่านั้น
"เรากำลังเร่งใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันตนเองจากโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดผ่านโดรนดังกล่าว" นายซอระบุเมื่อวันพุธ (15 พ.ย.)
ในกรุงเนปิดอว์เมืองหลวงของประเทศเมียนมา นายทิน มอง ซเว เลขาสภาเนปิดอว์ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้รับคำสั่งให้จัดตั้งหน่วยงานรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ปฏิเสธที่จะระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรับมือสถานการณ์ความมั่นคง เพียงระบุว่า สถานการณ์ในกรุงเนปิดอว์ยังคงสงบเรียบร้อย
"นี่เป็นแผนการที่เตรียมไว้ช่วยเหลือเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ "นายทิน มอง ซเวกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
ส่วนรัฐบาลคู่ขนานที่จัดตั้งโดยกลุ่มนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยและกลุ่มก่อไม่ความสงบได้เปิดปฏิบัติการ "เส้นทางสู่กรุงเนปิดอว์" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเข้าควบคุมเมืองหลวงของเมียนมา
ด้านสำนักข่าวคิทติท (Khit Thit) รายงานว่า สภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา (SAC) ได้สั่งการในวันพุธให้บุคคลที่เคยรับการฝึกทหารขั้นพื้นฐานเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเข้าเป็นทหารกองหนุนรับใช้ชาติ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพเมียนมาสู้รบกับชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และกลุ่มก่อความไม่สงบอื่น ๆ มานานหลายทศวรรษแล้ว แต่การก่อรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2564 ทำให้เกิดความร่วมมือกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างกองกำลังต่อต้านกองทัพเมียนมา เวลานี้กองทัพเมียนมาจึงประสบกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี