สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงในเมียนมา
ข้อมูลของ UN ระบุว่า จำนวนผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบพุ่งแตะ 2 ล้านราย และนายกูเตอร์เรสได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องผู้ที่ไม่ใช่นักรบ และเปิดทางให้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
รายงานระบุว่า ความสำเร็จของกองกำลังพันธมิตรของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มในรัฐฉาน ซึ่งสามารถขับไล่กองทัพและตำรวจออกจากพื้นที่ขนาดใหญ่ตามแนวชายแดนที่ติดกับจีน ได้สร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มต่อต้านอื่น ๆ ทั่วเมียนมา
กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐกะยา บริเวณทางตอนใต้ของรัฐฉาน กำลังก่อความไม่สงบในเมืองลอยก่อ ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ และได้เข้ายึดพื้นที่มหาวิทยาลัยบริเวณชานเมือง
ขณะเดียวกัน กองกำลังอาสาพิทักษ์ประชาชน (PDF) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักเคลื่อนไหวในท้องถิ่นหลังการปราบปรามการประท้วงอย่างสันติในปี 2564 เปิดฉากการโจมตีหลังจากกองทัพของรัฐบาลพ่ายแพ้ในการสู้รบในรัฐฉาน และดำเนินการกดดันรัฐบาลทหารอย่างต่อเนื่อง