นายเดวิด บาร์เนีย ผู้อำนวยการหน่วยมอสสาด ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล จะเดินทางไปยังกาตาร์ในวันนี้เพื่อเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการปล่อยตัวประกันกับนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกาตาร์
นอกจากนี้ นายบาร์เนียจะรับรายชื่อตัวประกันที่จะถูกปล่อยตัวตามข้อตกลงของอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ทั้งนี้ ฮามาสระบุในแถลงการณ์ว่า ทางกลุ่มจะปล่อยตัวประกัน 50 คนที่เป็นเด็กและผู้หญิง เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิงเช่นกันจำนวน 150 คน และอิสราเอลจะพักการสู้รบเป็นเวลา 4 วัน โดยคาดว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันชุดแรกจำนวน 10 คนในวันพรุ่งนี้ และจะทยอยปล่อยตัวประกันในระหว่างวันที่ 23-26 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลา 4 วันที่อิสราเอลจะทำการหยุดยิงตามข้อตกลง
ด้านนายมูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสและอิสราเอลจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.00 น.ตามเวลาไทย
เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ตัวประกันชุดแรกที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้จะมีชาวอเมริกัน 3 คน รวมถึงเด็กหญิงวัย 3 ขวบ 1 คน ซึ่งพ่อแม่ถูกกลุ่มฮามาสสังหารขณะบุกโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์รายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กลุ่มฮามาสอาจปล่อยตัวประกันเพิ่มเติมอีก 50 คนภายในเดือนนี้ นอกเหนือจาก 50 คนที่จะได้รับการปล่อยตัวตามที่มีการระบุในข้อตกลงก่อนหน้านี้
"ตัวประกันชุดที่สองจะตามมาหลังจากชุดแรก ซึ่งจะทำให้มีการปล่อยตัวประกันรวม 100 คน" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การปล่อยตัวประกันกลุ่มใหม่จะใช้เงื่อนไขตามข้อตกลงเดิมคือ ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คนที่เป็นเด็กและผู้หญิง เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิงเช่นกันจำนวน 150 คน ซึ่งจะทำให้ฮามาสปล่อยตัวประกันรวม 100 คน และอิสราเอลปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ 300 คน
The Jerusalem Post รายงานว่า กลุ่มฮามาสอาจทำการปล่อยตัวประกันที่เป็นคนไทย รวมทั้งตัวประกันอีกหลายชาติ ตามที่รัฐบาลของชาตินั้นๆ ได้เจรจาทำข้อตกลงกับกลุ่มฮามาส